รับประกันอัตรารีเบทสูงสุดในโลก:โปรแกรม XM 90% Auto Rebate กำลังให้บริการ:คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียด

เครื่องมือวิเคราะห์ความแข็งค่าของสกุลเงิน Forex ฟรี แบบเรียลไทม์

วิธีการใช้งานสามารถตรวจสอบได้ที่ด้านล่างของหน้านี้

✓ อัปเดตข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
เลือกสกุลเงินที่จะแสดง
USD
EUR
GBP
JPY
AUD
CAD
CHF
NZD
ตั้งค่าระยะเวลา
(1-7200)
การวิเคราะห์ความแข็งค่าของสกุลเงินจะอัปเดตอัตโนมัติทุก 1 นาที
ความแข็งค่าของสกุลเงิน
1 1 1
2 2 2
3 3 3
4 4 4
5 5 5
6 6 6
7 7 7
8 8 8
คู่สกุลเงินแนะนำสำหรับการซื้อขาย
1 1 1 1
2 2 2 2
3 3 3 3
4 4 4 4
5 5 5 5
6 6 6 6
7 7 7 7
8 8 8 8
9 9 9 9
10 10 10 10
11 11 11 11
12 12 12 12
13 13 13 13
14 14 14 14
15 15 15 15
16 16 16 16
17 17 17 17
18 18 18 18
19 19 19 19
20 20 20 20
21 21 21 21
22 22 22 22
23 23 23 23
24 24 24 24
25 25 25 25
26 26 26 26
27 27 27 27
28 28 28 28

ความแข็งค่าของสกุลเงินคืออะไร? – วิธีการใช้งานพื้นฐานของเครื่องมือวิเคราะห์

ในการเทรด (Trading) Forex นักเทรด (Trader) จำนวนมากมักดูชาร์ตของคู่สกุลเงินแต่ละคู่เพื่อตัดสินใจซื้อขาย อย่างไรก็ตาม แม้จะดูเพียงแค่ชาร์ต USDJPY เพียงอย่างเดียว ก็ยากที่จะตัดสินใจได้ว่า USD แข็งค่าหรือ JPY อ่อนค่า

การวิเคราะห์ความแข็งค่าของสกุลเงินเป็นเทคนิคที่วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของสกุลเงินหลัก 8 สกุล (USD, EUR, GBP, JPY, AUD, CAD, CHF, NZD) อย่างครอบคลุม และแปลงความแข็งค่าเปรียบเทียบของแต่ละสกุลเงินเป็นตัวเลข การวิเคราะห์นี้ทำให้เราสามารถเข้าใจได้อย่างเป็นกลางว่าปัจจุบันสกุลเงินใดถูกซื้อมากที่สุด และสกุลเงินใดถูกขายมากที่สุด

ด้วยวิธีการแบบเดิม จำเป็นต้องเปิดชาร์ตคู่สกุลเงินหลายคู่พร้อมกันเพื่อเปรียบเทียบ แต่การใช้เครื่องมือความแข็งค่าของสกุลเงินสามารถทำให้งานที่ซับซ้อนนี้เป็นแบบอัตโนมัติ และเข้าใจกระแสของตลาดโดยรวมได้ในพริบตา

วิธีอ่านตารางอันดับความแข็งค่าของสกุลเงิน

ตารางอันดับสกุลเงินในกรอบสีแดงของภาพอ้างอิงเป็นการจัดอันดับความแข็งค่าปัจจุบันของแต่ละสกุลเงินตั้งแต่อันดับที่ 1 ถึงอันดับที่ 8 อันดับที่ 1 คือสกุลเงินที่แข็งค่าที่สุด และอันดับที่ 8 คือสกุลเงินที่อ่อนแอที่สุด ลูกศรที่แสดงข้างแต่ละสกุลเงินแสดงการเปลี่ยนแปลงเมื่อเปรียบเทียบกับการอัปเดตครั้งก่อน ลูกศรชี้ขึ้น (▲) หมายถึงอันดับสูงขึ้นจากครั้งก่อน ลูกศรชี้ลง (▼) หมายถึงอันดับลดลง และลูกศรชี้ขวา (►) หมายถึงอันดับไม่เปลี่ยนแปลง

ภาพที่แสดงตำแหน่งของเครื่องมือวัดความแข็งแกร่งของสกุลเงิน
ภาพที่แสดงตำแหน่งของเครื่องมือวัดความแข็งแกร่งของสกุลเงิน

วิธีการใช้ประโยชน์จากคู่สกุลเงินแนะนำสำหรับการซื้อขาย

ตารางอันดับคู่สกุลเงินแนะนำในกรอบสีแดงของภาพอ้างอิงเป็นการจัดอันดับคู่สกุลเงินที่มีคุณค่าการซื้อขายสูงที่สุดในปัจจุบัน โดยอิงจากผลการวิเคราะห์ความแข็งค่าของสกุลเงิน แต่ละคู่จะมีการแสดง BUY (แนะนำซื้อ) หรือ SELL (แนะนำขาย) ซึ่งเป็นการแนะนำที่ได้มาจากการผสมผสานระหว่างสกุลเงินแข็งค่าและสกุลเงินอ่อนค่า

คู่ที่มีระดับแนะนำสูงหมายถึงมีความสัมพันธ์แข็งค่า-อ่อนค่าที่ชัดเจน และมีความเป็นไปได้สูงที่เทรนด์จะต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ระดับแนะนำที่สูงไม่ได้หมายความว่าจะชนะเสมอไป การใช้งานของเครื่องมือนี้มีจุดประสงค์เพื่อการเข้าใจสภาพแวดล้อมตลาดอย่างรวดเร็ว และถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการตัดสินใจซื้อขาย

ภาพที่แสดงตำแหน่งของตารางอันดับคู่สกุลเงินแนะนำสำหรับการซื้อขาย
ภาพที่แสดงตำแหน่งของตารางอันดับคู่สกุลเงินแนะนำสำหรับการซื้อขาย

ความเข้าใจและการเลือกการตั้งค่าระยะเวลา

การตั้งค่าระยะเวลาในกรอบสีแดงของภาพอ้างอิงเป็นฟังก์ชันที่ปรับกรอบเวลาในการวิเคราะห์ มีการตั้งค่า 7 ระดับตั้งแต่ “M1 (1 นาที)” ถึง “H4 (4 ชั่วโมง)” แต่ละระดับสะท้อนความผันผวนของราคาในกรอบเวลาที่แตกต่างกัน การตั้งค่าระยะสั้น เช่น M1 หรือ M5 มักถูกเลือกใช้โดยนักเทรดที่ทำสแกลปิ้ง (Scalping) หรือเดย์เทรด (Day Trading) และสามารถจับความผันผวนของราคาอย่างละเอียดอ่อน ในขณะที่การตั้งค่าระยะยาว เช่น H1 หรือ H4 ถูกใช้โดยนักเทรดที่ทำสวิงเทรด (Swing Trading) หรือการลงทุนระยะยาว และสามารถเข้าใจกระแสของเทรนด์ใหญ่ได้

ภาพที่แสดงตำแหน่งของแผงตั้งค่าระยะเวลาการคำนวณ
ภาพที่แสดงตำแหน่งของแผงตั้งค่าระยะเวลาการคำนวณ

ส่วนตัวแล้ว ผมจะเข้าใจความแข็งค่าของสกุลเงินจากกรอบเวลาใหญ่ไปเรื่อยๆ และท้ายที่สุดจะเลือกคู่สกุลเงินที่จะซื้อขายในกรอบ M5 (5 นาที) โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เข้าตำแหน่งตาม Trend Follow จะซื้อสกุลเงินแข็งค่าและขายสกุลเงินอ่อนแอ เพื่อเพิ่มผลกำไรสูงสุดและลดการสูญเสียให้น้อยที่สุด นอกจากนี้ หลังจากการประกาศตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ จำเป็นต้องเลือกคู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับตัวชี้วัดนั้น ในสถานการณ์เช่นนี้ ผมจึงใช้เครื่องมือนี้เพื่อสามารถตัดสินใจสกุลเงินแข็งค่า-อ่อนค่าเปรียบเทียบได้ในทันที

ฟังก์ชันตัวกรองสกุลเงิน

ฟังก์ชันตัวกรองสกุลเงินทำให้สามารถวิเคราะห์โดยเน้นไปที่สกุลเงินเฉพาะได้ ได้รับการออกแบบสำหรับผู้ที่ต้องการการตัดสินใจที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น เช่น การจำกัดให้เหลือเฉพาะสกุลเงินหลักที่มีสเปรดแคบและข้อมูลมากมาย การตัดสกุลเงินที่ไม่เคลื่อนไหวตามช่วงเวลาออกไป หรือการตัดสกุลเงินที่มีความสัมพันธ์สูงและยากต่อการเกิดเทรนด์ออกไป นอกจากนี้ สำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับเครื่องมือ แนะนำให้สะสมประสบการณ์และค่อย ๆ เพิ่มสกุลเงินเป้าหมายทีละน้อย

ภาพที่แสดงตำแหน่งของแผงเลือกสกุลเงินที่จะแสดง
ภาพที่แสดงตำแหน่งของแผงเลือกสกุลเงินที่จะแสดง

ข้อควรระวังเมื่อใช้เครื่องมือ

แม้เครื่องมือความแข็งค่าของสกุลเงินจะมีประโยชน์ แต่นักเทรดที่พึ่งพาเฉพาะเครื่องมือนี้ในการซื้อขายเป็นส่วนน้อย นักเทรดส่วนใหญ่จะใช้เป็นแนวทางที่แสดงทิศทางของตลาด และการตัดสินใจซื้อขายขั้นสุดท้ายจะใช้ดุลยพินิจของตนเอง หรือผสมผสานกับเทคนิคการวิเคราะห์อื่น ๆ

โดยเฉพาะเมื่อมีการประกาศตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญหรือเกิดข่าวกะทันหัน ความแข็งค่าของสกุลเงินจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงแนะนำให้ในช่วงเวลาเช่นนี้ ให้ปฏิบัติตามปัจจัยพื้นฐานมากกว่าข้อมูลที่เครื่องมือแสดง

นอกจากนี้ เนื่องจากลักษณะของเครื่องมือ ในช่วงที่มีการก่อตัวของเทรนด์ที่ชัดเจนจะมีประสิทธิภาพสูง แต่ในตลาดแกว่งตัว ความแข็งค่าของสกุลเงินจะสลับเปลี่ยนบ่อย ทำให้การตัดสินใจยากขึ้น ดังนั้น ขอให้ทราบว่าประสิทธิภาพของเครื่องมือจะเปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดล้อมของตลาดด้วย

กลไกการทำงานและการตั้งค่าแบบกำหนดเองของเครื่องมือวิเคราะห์ความแข็งค่าของสกุลเงิน

ในส่วนนี้จะอธิบายเกี่ยวกับกลไกการทำงานของเครื่องมือนี้ และวิธีการปรับแต่งโดยการป้อนค่าตัวเลข สำหรับการวิเคราะห์ความแข็งค่าของสกุลเงิน การใช้ปุ่มที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้าเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอสำหรับการใช้งานแล้ว แต่สำหรับผู้ที่ต้องการปรับให้เข้ากับการเทรด (Trading) ของตนเองมากขึ้น หรือผู้ที่สนใจกลไกการทำงานของเครื่องมือ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้

กลไกพื้นฐาน

เครื่องมือนี้วิเคราะห์ความแข็งค่าของสกุลเงินโดยการอ้างอิงค่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (Simple Moving Average) แบบสัมพัทธ์ของแต่ละคู่สกุลเงิน

เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่ายคืออะไร?

เป็นเส้นที่คำนวณจากค่าเฉลี่ยของราคาปิดย้อนหลังในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ตัวอย่างเช่น 20SMA คือค่าเฉลี่ยของราคาปิดจากแท่งเทียนย้อนหลัง 20 แท่ง

นอกจากนี้ เรื่องการอ้างอิงแบบสัมพัทธ์ สามารถอธิบายได้ง่ายๆ ดังนี้

การเปรียบเทียบ USD กับสกุลเงินอื่น
  • USD vs EUR: USD แข็งค่า
  • USD vs GBP: USD อ่อนค่า
  • USD vs JPY: USD แข็งค่า
  • USD vs AUD: USD แข็งค่า
  • USD vs CAD: USD แข็งค่า
  • USD vs CHF: CHF แข็งค่า

ผลลัพธ์: USD ชนะ 6 แพ้ 1 ดังนั้น มีความแข็งค่าสัมพัทธ์อันดับ 2

ดังนั้น เครื่องมือนี้สามารถวิเคราะห์ความแข็งค่า-อ่อนค่าสัมพัทธ์ระหว่างสกุลเงินได้ แต่ไม่สามารถระบุระดับของความแข็งค่า-อ่อนค่านั้น หรือแรงผลักดันของความแข็งค่า-อ่อนค่าได้

วิธีการใช้ปุ่มที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้า

ปุ่มที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้าบนเครื่องมือ เช่น “M1” “M5” “H1” มีค่าการตั้งค่าที่ใช้กันทั่วไปตั้งไว้แล้ว

ค่าการตั้งค่าของปุ่มแต่ละปุ่ม
  • M1 = 20SMA ของกราฟ 1 นาที → ค่าตัวเลข “20”
  • M5 = 20SMA ของกราฟ 5 นาที → ค่าตัวเลข “100”
  • M15 = 20SMA ของกราฟ 15 นาที → ค่าตัวเลข “300”
  • H1 = 20SMA ของกราฟ 1 ชั่วโมง → ค่าตัวเลข “1200”

เครื่องมือนี้ดึงข้อมูลราคาปิดจากกราฟ 1 นาทีและคำนวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย จึงได้ตัวเลขดังกล่าว ตัวอย่างการคำนวณที่เฉพาะเจาะจงสามารถดูได้ด้านล่าง

ตัวอย่างการคำนวณที่เฉพาะเจาะจง
  • 20SMA ของกราฟ 1 นาที = คำนวณจากราคาปิดกราฟ 1 นาที 20 แท่ง
  • 20SMA ของกราฟ 5 นาที = คำนวณจากราคาปิดกราฟ 1 นาที 100 แท่ง
  • 20SMA ของกราฟ 15 นาที = คำนวณจากราคาปิดกราฟ 1 นาที 300 แท่ง
  • 20SMA ของกราฟ 1 ชั่วโมง = คำนวณจากราคาปิดกราฟ 1 นาที 1200 แท่ง

เครื่องมือความแข็งค่าของสกุลเงินนี้ นอกจากปุ่มที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้าแล้ว ยังสามารถป้อนค่าการตั้งค่าด้วยตนเองได้

วิธีการตั้งค่าแบบกำหนดเอง

หากต้องการใช้ค่าการตั้งค่าอื่นนอกเหนือจากที่ตั้งไว้ล่วงหน้า กรุณาป้อนตัวเลขโดยตรงในตำแหน่งต่อไปนี้

ภาพที่แสดงฟอร์มการตั้งค่าระยะเวลาการคำนวณแบบกำหนดเอง
ภาพที่แสดงฟอร์มการตั้งค่าระยะเวลาการคำนวณแบบกำหนดเอง

นอกจากนี้ ต่อไปนี้เป็นสูตรการคำนวณและตัวอย่างการคำนวณที่เฉพาะเจาะจงเมื่อต้องการใช้ 21SMA ในการวิเคราะห์ความแข็งค่า-อ่อนค่า

ค่าการตั้งค่า = จำนวนนาทีของกรอบเวลา × ระยะเวลาค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

ตัวอย่างการคำนวณเมื่อใช้ 21SMA
  • 21SMA ของกราฟ 1 นาที → ป้อน “21”
  • 21SMA ของกราฟ 5 นาที → ป้อน “105” (5 × 21 = 105)
  • 21SMA ของกราฟ 1 ชั่วโมง → ป้อน “1260” (60 × 21 = 1260)

นอกจากนี้ เพื่อรักษาทรัพยากรการคำนวณฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ขีดจำกัดสูงสุดของค่าการตั้งค่าคือ “7200” ซึ่งเทียบเท่ากับ 30SMA ของกราฟ 4 ชั่วโมง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเครื่องมือวิเคราะห์ความแข็งค่าของสกุลเงิน

เราจะตอบคำถามที่ได้รับจากผู้ที่กำลังพิจารณาใช้งานเครื่องมือวิเคราะห์ความแข็งค่าของสกุลเงิน หรือผู้ที่ใช้งานอยู่แล้ว ตั้งแต่วิธีการใช้งานพื้นฐานของเครื่องมือ วิธีการใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ กลไกการทำงานและข้อจำกัดของเครื่องมือ รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเทรด (Trading) จริง กรุณาใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงเพื่อใช้งานเครื่องมือให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

เครื่องมือวิเคราะห์ความแข็งค่าของสกุลเงินคืออะไร?

เครื่องมือวิเคราะห์ความแข็งค่าของสกุลเงินคือเครื่องมือวิเคราะห์ Forex ที่แปลงความแข็งค่าสัมพัทธ์ของสกุลเงินหลัก 8 สกุล (USD, EUR, GBP, JPY, AUD, CAD, CHF, NZD) เป็นตัวเลข และแสดงผลเป็นตารางอันดับแบบเรียลไทม์

เครื่องมือความแข็งค่าของสกุลเงินใช้ฟรีได้ไหม?

ได้ครับ เครื่องมือวิเคราะห์ความแข็งค่าของสกุลเงินนี้สามารถใช้งานได้ฟรีทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิกหรือจ่ายค่าใช้จ่าย เพียงแค่เข้าใช้งานผ่านเบราว์เซอร์ก็สามารถเริ่มใช้งานได้ทันที รองรับทั้ง PC และสมาร์ทโฟน สามารถวิเคราะห์ความแข็งค่าของสกุลเงินได้ทุกที่ทุกเวลา

การวิเคราะห์ความแข็งค่าของสกุลเงินอัปเดตบ่อยแค่ไหน?

ผลการวิเคราะห์ความแข็งค่าของสกุลเงินจะอัปเดตอัตโนมัติทุก 1 นาที สามารถดูเวลาที่เหลือถึงการอัปเดตครั้งต่อไปได้จากตัวจับเวลานับถอยหลังที่มุมขวาล่างของหน้าจอ เนื่องจากสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงความแข็งค่าของสกุลเงินในตลาดได้แบบเกือบเรียลไทม์ จึงเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจซื้อขายที่ทันท่วงที

ผู้เริ่มต้น Forex สามารถใช้เครื่องมือความแข็งค่าของสกุลเงินได้ไหม?

ได้ครับ ผู้เริ่มต้น Forex สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย ไม่จำเป็นต้องมีการตั้งค่าที่ซับซ้อน เพียงแค่ดูตารางอันดับสกุลเงินและคู่ที่แนะนำที่แสดงขึ้นมา สำหรับผู้เริ่มต้นแนะนำให้เริ่มจากการตั้งค่า “M15 (กราฟ 15 นาที)” เนื่องจากการตั้งค่านี้มีสัญญาณรบกวนน้อย และเข้าใจเทรนด์ได้ง่าย

ควรเลือกการตั้งค่าระยะเวลาของเครื่องมือความแข็งค่าของสกุลเงินอย่างไร?

ควรเลือกการตั้งค่าระยะเวลาตามสไตล์การซื้อขาย หากทำสแกลปิ้งแนะนำ “M1” “M5” หากทำเดย์เทรดแนะนำ “M15” “M30” หากทำสวิงเทรดแนะนำ “H1” “H4” การตั้งค่าระยะสั้นจะจับความผันผวนที่ละเอียด และการตั้งค่าระยะยาวจะเข้าใจเทรนด์ใหญ่ได้

คู่สกุลเงินแนะนำอันดับต้นๆ ชนะได้เสมอไหม?

ไม่ครับ แม้จะเป็นคู่ที่แนะนำอันดับต้นๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะชนะได้เสมอ เครื่องมือความแข็งค่าของสกุลเงินเป็นเครื่องมือที่แสดงทิศทางของตลาด ไม่ใช่เครื่องมือที่รับประกันอัตราชนะ แนะนำให้ใช้กลยุทธ์การซื้อขายแบบครอบคลุมที่ผสมผสานระหว่างจังหวะการเข้าตำแหน่ง การตั้งสต็อปลอส และการจัดการเงินทุน

เครื่องมือความแข็งค่าของสกุลเงินใช้งานบนสมาร์ทโฟนได้ไหม?

ได้ครับ สามารถใช้งานบนสมาร์ทโฟนได้ เนื่องจากใช้การออกแบบแบบ Responsive ทำให้การแสดงผลเหมาะสมกับอุปกรณ์ iPhone และ Android สามารถเช็คความแข็งค่าของสกุลเงินได้แม้อยู่นอกสถานที่ สะดวกสำหรับการวิเคราะห์ตลาดขณะเดินทาง

กรุณาอธิบายวิธีการคำนวณความแข็งค่าของสกุลเงิน

ความแข็งค่าของสกุลเงินคำนวณโดยการอ้างอิงเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่ายของแต่ละคู่สกุลเงินแบบสัมพัทธ์ ตัวอย่างเช่น ความแข็งค่าของ USD จะเปรียบเทียบความแข็งค่า-อ่อนค่าในทุกคู่ เช่น ต่อ EUR ต่อ GBP ต่อ JPY และจัดอันดับตามจำนวนชนะ-แพ้

ควรเลือกสกุลเงินใดดี?

สำหรับผู้เริ่มต้นแนะนำให้กดปุ่ม “สกุลเงินหลัก” เพื่อจำกัดให้เหลือ USD, EUR, GBP, JPY ทั้ง 4 สกุล เนื่องจากสกุลเงินเหล่านี้มีสภาพคล่องสูงและสเปรด (Spread) แคบ ทำให้ซื้อขายได้ง่าย เมื่อคุ้นเคยแล้วสามารถเพิ่มสกุลเงินอื่นๆ และค้นหาโอกาสการซื้อขายได้มากขึ้น

มีช่วงเวลาที่ใช้เครื่องมือความแข็งค่าของสกุลเงินไม่ได้ไหม?

เมื่อเกิดข้อผิดพลาดการเชื่อมต่อ API จะมีแบนเนอร์ข้อผิดพลาดแสดงที่ด้านบนของหน้าจอ และจะแสดงข้อมูลทดสอบ สามารถพยายามกู้คืนได้โดยคลิกปุ่ม “ลองเชื่อมต่อใหม่” นอกจากช่วงบำรุงรักษาเซิร์ฟเวอร์แล้ว โดยพื้นฐานสามารถใช้งานได้ 24 ชั่วโมง

เครื่องมือวิเคราะห์ความแข็งค่าของสกุลเงินมีลักษณะพิเศษคือสามารถเข้าใจความสัมพันธ์แข็งค่า-อ่อนค่าสัมพัทธ์ของสกุลเงิน 8 สกุลได้ในพริบตา และค้นหาคู่การซื้อขายที่เหมาะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงถูกใช้โดยนักเทรดจำนวนมากเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสภาพแวดล้อมตลาดในการซื้อขาย Forex

นักเทรดส่วนใหญ่ที่ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพมักเลือกการตั้งค่าที่เหมาะสมกับสไตล์การซื้อขายของตนเอง และใช้ร่วมกับเทคนิคการวิเคราะห์อื่นๆ มีแนวโน้มที่จะทำการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม ไม่พึ่งพาเครื่องมือมากเกินไป และทำการซื้อขายโดยอิงจากการตัดสินใจแบบครอบคลุม

การซื้อขาย Forex มีความเสี่ยง และการซื้อขายทั้งหมดไม่ได้สร้างกำไรเสมอไป ขณะที่ใช้เครื่องมือนี้เป็นข้อมูลอ้างอิงหนึ่ง ควรพยายามทำการตัดสินใจการซื้อขายที่ดีขึ้นผ่านการเรียนรู้และสะสมประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง ขอให้ประสบความสำเร็จในฐานะนักเทรด