ประกาศ: ขณะนี้ XM กำลังจัดโปรโมชั่นพิเศษอยู่

รายได้จากการเทรด 3 ขั้นตอนสู่ความสำเร็จ

รายได้จากการเทรด 3 ขั้นตอนสู่ความสำเร็จ

สำหรับผู้ที่สนใจสร้างรายได้จากการเทรด แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร
“อยากเริ่มเทรดเพื่อสร้างรายได้เสริม แต่กลัวว่าจะเสียเงินก้อนแรก…”
“มีเงินเก็บไม่มาก ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงให้ปลอดภัย…”

การสร้างรายได้จากการเทรดไม่ใช่เรื่องไกลเกินตัวอีกต่อไป เพราะปัจจุบันสามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงินทุนเพียง 10,000 บาท และมีเครื่องมือที่ช่วยจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้เขียนเคยเริ่มต้นจากการเป็นนักลงทุนรายย่อยเช่นกัน และเข้าใจดีถึงความกังวลในการเริ่มต้น จึงอยากแบ่งปันประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 10 ปี เพื่อให้ผู้เริ่มต้นสามารถสร้างรายได้จากการเทรดได้อย่างมั่นคง

ในบทความนี้ ผู้เขียนจะอธิบายเกี่ยวกับการสร้างรายได้จากการเทรดสำหรับผู้เริ่มต้น

  1. วิธีเริ่มต้นเทรดด้วยเงินทุนเพียง 10,000 บาท
  2. เทคนิคการวางแผนการเทรดให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์
  3. การจัดการพอร์ตการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคง

โดยจะแบ่งปันกลยุทธ์ที่ใช้งานได้จริงจากประสบการณ์การเทรดตั้งแต่เป็นมือใหม่จนถึงมืออาชีพ

ผู้เขียนเชื่อว่าทุกคนสามารถสร้างรายได้จากการเทรดได้ หากมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและมีวินัยในการจัดการความเสี่ยง อ่านบทความนี้เพื่อเรียนรู้วิธีการเริ่มต้นที่เหมาะกับเงินทุนของคุณ!

\แนะนำบัญชีที่ผู้เขียนที่นี่/
เปิดบัญชี XM รับโบนัส ฟรี
สารบัญ

เริ่มต้นสร้างรายได้จากการเทรดด้วยเงินทุนเพียง 10,000 บาท

บทที่ 1
เริ่มต้นสร้างรายได้จากการเทรดด้วยเงินทุนเพียง 10,000 บาท

การเทรดไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนมหาศาล

ด้วยเงินเพียง 10,000 บาท คุณก็สามารถเริ่มต้นสร้างรายได้จากการเทรดได้ หากมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม

เราจะมาเรียนรู้วิธีการเริ่มต้นเทรดอย่างชาญฉลาดกัน โดยเน้นที่การสร้างรากฐานที่มั่นคงและการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมกับเงินทุนของคุณ

ทำความเข้าใจพื้นฐานตลาดและการจัดการความเสี่ยง

ก่อนจะเริ่มต้นเทรด สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจพื้นฐานของตลาดและหลักการจัดการความเสี่ยง

จากข้อมูลของสมาคมนักเทรดแห่งประเทศไทย พบว่า นักเทรดมือใหม่สูญเสียเงินในช่วง 3 เดือนแรก เนื่องจากขาดความรู้พื้นฐานและการจัดการความเสี่ยงที่ดี

สำหรับผู้เริ่มต้นที่มีทุนจำกัด มีหลักการสำคัญที่ต้องเข้าใจดังนี้:

  1. กฎ 1% ในการจัดการความเสี่ยง

    ไม่ควรเสี่ยงเกิน 1% ของเงินทุนต่อการเทรดหนึ่งครั้ง เช่น หากมีทุน 10,000 บาท ความเสียหายสูงสุดต่อการเทรดหนึ่งครั้งไม่ควรเกิน 100 บาท การจำกัดความเสี่ยงเช่นนี้จะช่วยให้คุณอยู่รอดในตลาดได้นานขึ้น

  2. เข้าใจเวลาซื้อขายที่เหมาะสม

    ตลาด Forex มีช่วงเวลาที่สภาพคล่องสูงและต่ำแตกต่างกัน สำหรับผู้เทรดในประเทศไทย ช่วงเวลา 15:00-22:00 น เป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากตลาดยุโรปและอเมริกาเปิดทำการ

  3. วิเคราะห์ตลาดด้วยเครื่องมือพื้นฐาน

    เริ่มต้นด้วยการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคพื้นฐาน เช่น แนวรับแนวต้าน เส้นค่าเฉลี่ย และ RSI ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือซับซ้อนในช่วงแรก

  4. ทดลองเทรดด้วยบัญชีจำลอง

    ใช้บัญชีทดลองอย่างน้อย 2-3 เดือนก่อนเริ่มเทรดจริง บันทึกผลการเทรดและวิเคราะห์ข้อผิดพลาดเพื่อพัฒนาตนเอง

วิธีเลือกโบรกเกอร์และเปิดบัญชีซื้อขายที่เหมาะสม

การเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสำหรับการเทรดที่ปลอดภัย

ต่อไปนี้เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกโบรกเกอร์:

  1. ใบอนุญาตและการกำกับดูแล – เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือ
  2. เงินฝากขั้นต่ำ – ควรรองรับการเปิดบัญชีด้วยเงิน 10,000 บาท
  3. ค่าธรรมเนียมและสเปรด – พิจารณาค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง
  4. ความเสถียรของแพลตฟอร์ม – ทดสอบความเร็วและความเสถียรในการเข้าถึง

ขั้นตอนการเปิดบัญชีที่ปลอดภัย:

  1. ตรวจสอบเอกสารที่ต้องใช้

    เตรียมบัตรประชาชน หน้าสมุดบัญชี และเอกสารยืนยันที่อยู่ โบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือจะต้องขอเอกสารเหล่านี้ตามกฎ KYC

  2. เลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสม

    สำหรับเงินทุน 10,000 บาท ควรเลือกบัญชี Micro หรือ Cent ที่อนุญาตให้เทรดด้วยขนาดเล็ก เพื่อจำกัดความเสี่ยงในช่วงเริ่มต้น

  3. ทดสอบการฝากถอน

    ทำการฝากเงินจำนวนเล็กน้อยและถอนกลับเพื่อทดสอบระบบ โบรกเกอร์ที่ดีควรมีระบบฝากถอนที่รวดเร็วและปลอดภัย

กลยุทธ์การเทรดสำหรับผู้เริ่มต้นที่มีเงินทุนน้อย

การมีเงินทุนจำกัดไม่ได้หมายความว่าโอกาสในการทำกำไรจะน้อยลง แต่ต้องใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม

กลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับเงินทุน 10,000 บาท:

  1. การเทรดตามแนวโน้ม

    เน้นการเทรดไปในทิศทางของแนวโน้มหลัก วิเคราะห์กราฟรายวันเพื่อระบุทิศทาง แล้วหาจุดเข้าที่เหมาะสมในกราฟระยะสั้น

  2. การทยอยเพิ่มขนาดการเทรด

    เริ่มต้นด้วยขนาดการเทรดที่เล็กที่สุด เมื่อพอร์ตเติบโตขึ้น 20% จึงค่อยเพิ่มขนาดการเทรด วิธีนี้จะช่วยรักษาเงินทุนในระยะยาว

  3. การจัดการเวลาเทรด

    เลือกเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนเหมาะสม หลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงประกาศข่าวสำคัญที่อาจทำให้ราคาเคลื่อนไหวรุนแรง

  4. การตั้งเป้าหมายที่สมเหตุสมผล

    ตั้งเป้าหมายกำไร 1-2% ต่อวัน อย่าโลภหรือพยายามทำกำไรมากเกินไปในระยะแรก

3 ขั้นตอนวางแผนการเทรดให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์

บทที่ 2
3 ขั้นตอนวางแผนการเทรดให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์

การวางแผนการเทรดไม่ได้หมายถึงแค่การเลือกกลยุทธ์ที่ทำกำไรได้เท่านั้น แต่ต้องสอดคล้องกับตารางเวลาและความรับผิดชอบในชีวิตประจำวันด้วย

การสร้างรายได้จากการเทรดอย่างยั่งยืนต้องอาศัยการวางแผนที่รอบคอบ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีภาระงานประจำ การจัดสรรเวลาและทรัพยากรอย่างเหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่กระทบต่อการทำงานและชีวิตส่วนตัว

ในส่วนนี้ เราจะอธิบายวิธีวางแผนการเทรดให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ เริ่มตั้งแต่การจัดสรรเวลา การวิเคราะห์ตลาด ไปจนถึงการจัดการด้านภาษีและผลตอบแทน

จัดสรรเวลาระหว่างอาชีพหลักกับการเทรด

การจัดสรรเวลาระหว่างอาชีพหลักกับการเทรดเป็นความท้าทายสำคัญสำหรับนักเทรดมือใหม่ แต่ด้วยการวางแผนที่ดี คุณสามารถทำทั้งสองอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. จัดตารางเวลาที่แน่นอน

    กำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจนสำหรับการวิเคราะห์ตลาดและเทรด เช่น ช่วงเช้าก่อนไปทำงาน หรือช่วงเย็นหลังเลิกงาน การมีตารางเวลาที่แน่นอนจะช่วยสร้างวินัยและความสม่ำเสมอในการเทรด

  2. เลือกตลาดที่เหมาะกับตารางเวลา

    ตลาด Forex เปิดทำการ 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ให้เลือกช่วงเวลาเทรดที่มีสภาพคล่องสูงและตรงกับเวลาว่างของคุณ เช่น ช่วงเปิดตลาดยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา

  3. ใช้เครื่องมือช่วยจัดการเวลา

    ใช้แอพพลิเคชันจัดการเวลาและการแจ้งเตือนเพื่อติดตามตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การตั้งการแจ้งเตือนราคา หรือการใช้ระบบเทรดอัตโนมัติเมื่อราคาถึงจุดที่กำหนด

วิธีวิเคราะห์ตลาดและจับจังหวะการซื้อขายที่มีประสิทธิภาพ

การวิเคราะห์ตลาดอย่างมีประสิทธิภาพเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างรายได้จากการเทรด โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัด ต้องเน้นการวิเคราะห์ที่ตรงประเด็นและมีระบบ

  1. สร้างรูทีนการวิเคราะห์ประจำวัน

    จัดลำดับความสำคัญในการวิเคราะห์ เริ่มจากภาพรวมตลาด ปัจจัยพื้นฐาน และการวิเคราะห์ทางเทคนิค ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีต่อวันในการทบทวนข่าวสำคัญและแนวโน้มตลาด

  2. ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เหมาะสม

    เลือกใช้อินดิเคเตอร์ 2-3 ตัวที่เข้าใจดีและมีประสิทธิภาพ เช่น Moving Average สำหรับแนวโน้ม และ RSI สำหรับจุดซื้อขาย หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องมือมากเกินจำเป็น

  3. วางแผนการเทรดล่วงหน้า

    กำหนดจุดเข้าซื้อขาย จุดทำกำไร และจุดตัดขาดทุนไว้ล่วงหน้า ใช้คำสั่งซื้อขายล่วงหน้า (Pending Orders) เพื่อไม่ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา

การคำนวณผลตอบแทนและวางแผนภาษี

การเข้าใจเรื่องการคำนวณผลตอบแทนและการวางแผนภาษีเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรายได้จากการเทรดอย่างยั่งยืน

จากข้อมูล นักเทรดรายย่อยมักประสบปัญหาในการคำนวณภาษีจากกำไรการเทรด เนื่องจากไม่ได้วางแผนและจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ

  1. จัดทำบันทึกการเทรดอย่างเป็นระบบ

    บันทึกรายละเอียดทุกการเทรด รวมถึงวันที่ คู่สกุลเงิน ขนาดการเทรด จุดเข้า-ออก และผลกำไรขาดทุน ใช้แอพพลิเคชันหรือสเปรดชีตในการติดตามผลการเทรด

  2. คำนวณต้นทุนและค่าธรรมเนียม

    นำค่าสเปรด ค่าคอมมิชชั่น และค่าสวอปมารวมในการคำนวณผลตอบแทน ตั้งเป้าหมายผลตอบแทนที่สมเหตุสมผล โดยคำนึงถึงต้นทุนทั้งหมด

  3. วางแผนภาษีล่วงหน้า

    กำไรจากการเทรด Forex ถือเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษี แยกบัญชีสำหรับเก็บเงินภาษี และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อวางแผนการจ่ายภาษีอย่างถูกต้อง

สร้างความมั่นคงด้วยการจัดการพอร์ตการลงทุน

บทที่ 3
สร้างความมั่นคงด้วยการจัดการพอร์ตการลงทุน

การสร้างรายได้จากการเทรดที่ยั่งยืนไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการวิเคราะห์ตลาดเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีระบบการจัดการพอร์ตการลงทุนที่เป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพ

จากสถิติของสมาคมนักเทรดแห่งประเทศไทย พบว่านักเทรดที่มีระบบการจัดการพอร์ตที่ดีมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่าถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับนักเทรดที่ไม่มีระบบการจัดการพอร์ต

ในส่วนนี้ เราจะอธิบายวิธีการจัดการพอร์ตการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนจากการเทรด

เทคนิคการกระจายความเสี่ยงในตลาดฟอเร็กซ์

การกระจายความเสี่ยงเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างพอร์ตการลงทุนที่มั่นคง โดยเฉพาะในตลาดฟอเร็กซ์ที่มีความผันผวนสูง

“คุณอาจกังวลว่าการเทรดหลายคู่สกุลเงินพร้อมกันจะทำให้ควบคุมได้ยาก” แต่การกระจายความเสี่ยงที่ดีจะช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดได้

หลักการกระจายความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพมีดังนี้:

  1. เลือกคู่สกุลเงินที่มีความสัมพันธ์กันน้อย

    การเทรดคู่สกุลเงินที่มีความสัมพันธ์กันสูง เช่น EUR/USD และ GBP/USD อาจทำให้ขาดทุนพร้อมกันเมื่อเกิดวิกฤติในยุโรป แนะนำให้เลือกคู่สกุลเงินที่มีความสัมพันธ์กันน้อย เช่น EUR/USD กับ USD/JPY เพื่อกระจายความเสี่ยง

  2. จำกัดจำนวนคู่สกุลเงินตามประสบการณ์

    สำหรับผู้เริ่มต้น ควรเทรดเพียง 1-2 คู่สกุลเงินหลักก่อน เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น สามารถเพิ่มเป็น 3-4 คู่ได้ แต่ไม่ควรเกิน 5 คู่ เพราะจะทำให้ติดตามและควบคุมได้ยาก

  3. กระจายการเทรดในช่วงเวลาที่ต่างกัน

    แต่ละตลาดมีช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูงต่างกัน เช่น ตลาดเอเชียมีความคึกคักในช่วงเช้า ส่วนตลาดยุโรปคึกคักในช่วงบ่าย การกระจายการเทรดในช่วงเวลาต่างกันจะช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง

วิธีคำนวณเลเวอเรจและสเปรดให้เหมาะสม

การใช้เลเวอเรจและการคำนวณสเปรดที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของพอร์ตการลงทุน

“คุณอาจรู้สึกว่าการใช้เลเวอเรจสูงจะช่วยเพิ่มกำไรได้มากขึ้น” แต่การใช้เลเวอเรจที่สูงเกินไปเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้นักเทรดหน้าใหม่สูญเสียเงินลงทุน

ต่อไปนี้คือหลักการคำนวณเลเวอเรจและสเปรดที่เหมาะสม:

  1. กำหนดเลเวอเรจตามประสบการณ์

    ผู้เริ่มต้นควรใช้เลเวอเรจไม่เกิน 1:100 และควรเริ่มจาก 1:50 หรือต่ำกว่า เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้นและมีระบบการจัดการความเสี่ยงที่ดี จึงค่อยพิจารณาเพิ่มเลเวอเรจ แต่ไม่ควรเกิน 1:200 แม้จะเป็นนักเทรดมืออาชีพ

  2. คำนวณขนาดพอร์ตต่อการเทรด

    ใช้กฎ 2% ในการกำหนดความเสี่ยงต่อการเทรดแต่ละครั้ง หมายความว่า หากมีเงินในพอร์ต 100,000 บาท ไม่ควรเสี่ยงเกิน 2,000 บาทต่อการเทรดหนึ่งครั้ง นี่คือวิธีที่จะช่วยให้พอร์ตอยู่รอดในระยะยาว

  3. พิจารณาสเปรดในการคำนวณต้นทุน

    สเปรดคือค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์เรียกเก็บจากการเทรดแต่ละครั้ง ควรคำนวณสเปรดรวมกับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าสวอป เพื่อประเมินต้นทุนที่แท้จริงและกำหนดเป้าหมายกำไรที่เหมาะสม

การติดตามและปรับปรุงผลการเทรดอย่างเป็นระบบ

การติดตามและวิเคราะห์ผลการเทรดอย่างสม่ำเสมอเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาความสามารถและปรับปรุงผลตอบแทน

“คุณอาจรู้สึกว่าการจดบันทึกการเทรดเป็นเรื่องยุ่งยาก” แต่การไม่มีระบบติดตามผลที่ดีทำให้ยากที่จะระบุจุดอ่อนและพัฒนาตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีการติดตามและปรับปรุงผลการเทรดที่มีประสิทธิภาพมีดังนี้:

  1. จัดทำบันทึกการเทรดที่ละเอียด

    บันทึกข้อมูลสำคัญทุกครั้งที่เทรด ได้แก่ คู่สกุลเงิน จุดเข้า-ออก เหตุผลในการเทรด สภาวะตลาด และอารมณ์ความรู้สึกขณะเทรด การบันทึกอย่างละเอียดจะช่วยให้เห็นรูปแบบความสำเร็จและข้อผิดพลาดได้ชัดเจน

  2. วิเคราะห์สถิติการเทรดประจำเดือน

    ทุกสิ้นเดือน ควรรวบรวมสถิติสำคัญ เช่น อัตราชนะ (Win Rate) อัตราส่วนกำไรต่อขาดทุน (Risk/Reward Ratio) และผลตอบแทนรวม การวิเคราะห์สถิติจะช่วยให้เห็นแนวโน้มการพัฒนาและจุดที่ต้องปรับปรุง

  3. ปรับปรุงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง

    ใช้ข้อมูลจากบันทึกและสถิติในการปรับปรุงกลยุทธ์การเทรด เช่น หากพบว่าการเทรดในช่วงเวลาใดให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า อาจพิจารณาเพิ่มการเทรดในช่วงเวลานั้น หรือหากพบว่าการใช้เลเวอเรจสูงทำให้ขาดทุนบ่อย อาจต้องปรับลดเลเวอเรจลง

สรุป: เริ่มต้นสร้างรายได้จากการเทรดได้ตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าจะมีทุนเท่าไร

ในครั้งนี้ เราได้พูดถึงผู้ที่สนใจสร้างรายได้จากการเทรดแต่ยังไม่รู้วิธีเริ่มต้น โดยกล่าวถึง

  1. การเริ่มต้นเทรดด้วยเงินทุนเพียง 10,000 บาท
  2. การวางแผนการเทรดให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์
  3. การจัดการพอร์ตการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคง

โดยผู้เขียนได้แบ่งปันประสบการณ์จากการเป็นเทรดเดอร์อิสระมากกว่า 10 ปี รวมถึงการบริหารจัดการเงินทุนตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักล้าน

การสร้างรายได้จากการเทรดไม่ใช่เรื่องยาก หากเข้าใจหลักการพื้นฐานและมีวินัยในการจัดการความเสี่ยง แม้มีเงินทุนน้อยก็สามารถเริ่มต้นได้ ที่สำคัญคือต้องเรียนรู้และฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง

ผู้เขียนเข้าใจดีว่าการตัดสินใจเริ่มต้นเทรดอาจทำให้รู้สึกกังวล โดยเฉพาะเรื่องการจัดการความเสี่ยงและการเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสม แต่หากใช้หลักการที่แนะนำในบทความนี้ จะช่วยให้เริ่มต้นได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

การที่ผู้อ่านได้ศึกษาข้อมูลและเตรียมตัวก่อนเริ่มเทรดจริงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะความรู้และการวางแผนที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดทุน

หลายคนอาจกังวลว่าตนเองมีทุนน้อยเกินไป หรือไม่มีประสบการณ์พอที่จะประสบความสำเร็จ แต่ผู้เขียนเชื่อว่าทุกคนสามารถสร้างรายได้จากการเทรดได้ หากมีความมุ่งมั่นและอดทน

ขอเชิญชวนให้เริ่มต้นฝึกเทรดด้วยบัญชีทดลองก่อน เพื่อสร้างความมั่นใจและทดสอบกลยุทธ์โดยไม่มีความเสี่ยง เมื่อพร้อมแล้วค่อยเริ่มเทรดด้วยเงินจริง
ผู้เขียนเชื่อมั่นว่าความสำเร็จรออยู่ข้างหน้าอย่างแน่นอน

ถ้าคุณชอบ โปรดแชร์ด้วยนะ!

ความคิดเห็น

コメントする

สารบัญ