ประกาศ: ขณะนี้ XM กำลังจัดโปรโมชั่นพิเศษอยู่

งานเทรด Forex: 3 ขั้นตอนเริ่มต้นง่ายๆ

งานเทรด Forex: 3 ขั้นตอนเริ่มต้นง่ายๆ

ผู้อ่านที่กำลังทำงานประจำและมีเป้าหมายทำเทรดฟอเร็กซ์เป็นรายได้เสริม
“แค่เงินเดือนไม่พอใช้แล้ว ยังมีหนี้บัตรเครดิตที่ต้องผ่อน กลัวว่าจะเริ่มเทรดแล้วพลาดขาดทุนเพิ่ม…”
“อยากลองเทรดฟอเร็กซ์ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี จะแบ่งเวลาทำงานประจำยังไง…”

อย่างไรก็ตาม การเทรดฟอเร็กซ์ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด จากประสบการณ์ 10 ปีของผู้เขียน พบว่า นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ เริ่มต้นจากการทำงานประจำและค่อยๆ เรียนรู้ไปทีละขั้น

หากมีแผนการเรียนรู้ที่ดีและเริ่มต้นอย่างรอบคอบ การเทรดฟอเร็กซ์จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการสร้างรายได้เสริมที่มั่นคงได้

ในบทความนี้ จะอธิบายเกี่ยวกับการเริ่มต้นเทรดฟอเร็กซ์สำหรับผู้ที่มีงานประจำ

  1. ความจริงที่ต้องรู้และวิธีเริ่มต้นลงทุนอย่างปลอดภัย
  2. 3 ขั้นตอนสำคัญสำหรับมือใหม่ที่จะช่วยลดความเสี่ยง
  3. เทคนิคการจัดการเวลาเทรดให้เข้ากับชีวิตประจำวัน

โดยผู้เขียนจะแบ่งปันประสบการณ์จริงจากการเป็นเทรดเดอร์มือใหม่จนถึงการประสบความสำเร็จ

ผู้เขียนเข้าใจดีถึงความกังวลในการเริ่มต้น โดยเฉพาะเรื่องเงินลงทุนและการจัดการเวลา บทความนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจนและวางแผนเริ่มต้นได้อย่างมั่นใจ โปรดใช้เป็นคู่มือในการก้าวแรกสู่การเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพ!

\แนะนำบัญชีที่ผู้เขียนที่นี่/
เปิดบัญชี XM รับโบนัส ฟรี
สารบัญ

ความจริงที่ต้องรู้ก่อนเริ่มเทรด Forex

บทที่ 1
ความจริงที่ต้องรู้ก่อนเริ่มเทรด Forex

การเทรด Forex เป็นตลาดที่มีโอกาสสร้างรายได้ แต่ก็แฝงไปด้วยความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง

ผู้เริ่มต้นจำนวนมากมักเข้าสู่ตลาด Forex ด้วยความคาดหวังสูงเกินไป โดยไม่เข้าใจถึงความเสี่ยงและความซับซ้อนของตลาด ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดทุนและความผิดหวัง

ในส่วนนี้ เราจะอธิบายถึงความจริงที่สำคัญเกี่ยวกับตลาด Forex ที่ผู้เริ่มต้นควรทราบ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มต้นเทรด

ตลาด Forex มีมูลค่าการซื้อขายมหาศาลแต่มีความเสี่ยงสูง

ตลาด Forex หรือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมากกว่า 6.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามรายงานของธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ในปี 2022

อย่างไรก็ตาม ขนาดที่ใหญ่ของตลาดไม่ได้หมายความว่าการเทรดจะง่าย “คุณอาจกำลังคิดว่าตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูงจะเทรดได้ง่าย” แต่ความจริงแล้ว ตลาด Forex มีความผันผวนสูงและมีปัจจัยที่ส่งผลต่อราคามากมาย เช่น:

  1. ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ
  2. การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของธนาคารกลางประเทศต่างๆ
  3. ภาวะตลาดการเงินโลกและการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ

จากสถิติของผู้ให้บริการ Forex รายใหญ่พบว่า 70-80% ของนักลงทุนรายย่อยประสบการขาดทุน สาเหตุหลักมาจาก:

  1. ขาดความรู้และประสบการณ์

    การเทรด Forex ต้องใช้ความรู้ทั้งด้านเศรษฐศาสตร์ การเงินระหว่างประเทศ และการวิเคราะห์ทางเทคนิค ผู้เริ่มต้นที่ไม่ได้ศึกษาให้ดีมักตัดสินใจผิดพลาด

  2. ใช้เงินลงทุนมากเกินไป

    การใช้เงินลงทุนมากเกินไปและการใช้ leverage สูงอาจทำให้บัญชีหมดภายในไม่กี่เทรด จึงควรเริ่มต้นด้วยเงินที่สูญเสียได้และใช้ leverage อย่างระมัดระวัง

  3. ขาดแผนและวินัยในการเทรด

    การเทรดโดยใช้อารมณ์และไม่มีแผนที่ชัดเจนมักนำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาด ผู้เทรดควรมีแผนและยึดมั่นในกฎที่วางไว้

เริ่มต้นด้วยเงินเท่าไหร่จึงจะปลอดภัย?

การกำหนดเงินลงทุนเริ่มต้นที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณอยู่รอดในตลาด Forex ได้ “คุณอาจกำลังสงสัยว่าควรเริ่มต้นด้วยเงินเท่าไหร่” จากการศึกษาของสมาคมตลาดทุนไทย พบว่าเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่เริ่มต้นด้วยหลักการต่อไปนี้:

  1. ใช้เงินที่สูญเสียได้

    เริ่มต้นด้วยเงินที่ไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายประจำวันและไม่ใช่เงินก้อนสุดท้าย โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ไม่เกิน 5-10% ของเงินออม

  2. เริ่มต้นด้วยบัญชีขนาดเล็ก

    แนะนำให้เริ่มต้นด้วยเงิน 15,000-30,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนที่เพียงพอสำหรับการเรียนรู้และสร้างประสบการณ์ โดยไม่เสี่ยงเกินไป

  3. ใช้ leverage อย่างระมัดระวัง

    เริ่มต้นด้วย leverage ต่ำ เช่น 1:10 หรือ 1:20 เพื่อจำกัดความเสี่ยง แม้โบรกเกอร์จะเสนอ leverage สูงถึง 1:500 ก็ตาม

  4. สำรองเงินสำหรับการเรียนรู้

    กันเงินส่วนหนึ่งสำหรับการเรียนรู้ เช่น คอร์สเรียน หนังสือ หรือเครื่องมือวิเคราะห์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จในระยะยาว

3 ขั้นตอนเริ่มต้นเทรด Forex สำหรับมือใหม่

บทที่ 2
3 ขั้นตอนเริ่มต้นเทรด Forex สำหรับมือใหม่

การเริ่มต้นเทรด Forex อย่างมีระบบเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ

จากสถิติพบว่า นักเทรดมือใหม่ประสบปัญหาขาดทุนในช่วงแรกเนื่องจากขาดการเตรียมตัวที่ดี

เพื่อให้คุณเริ่มต้นได้อย่างมั่นใจ เราจะแนะนำ 3 ขั้นตอนสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการเทรด Forex

ฝึกฝนด้วยบัญชีทดลองอย่างน้อย 3-6 เดือน

บัญชีทดลองคือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณเรียนรู้การเทรด Forex โดยไม่ต้องเสี่ยงกับเงินจริง

“คุณอาจกังวลว่าการฝึกฝนด้วยบัญชีทดลองจะเสียเวลาเปล่า” แต่จากการศึกษาของสมาคมตลาดทุนไทยพบว่า นักเทรดที่ใช้เวลาฝึกฝนกับบัญชีทดลองอย่างน้อย 3-6 เดือน มีโอกาสทำกำไรในระยะยาวสูงกว่าถึง 3 เท่า

ขั้นตอนการฝึกฝนที่มีประสิทธิภาพมีดังนี้:

  1. เลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ

    ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เช่น ก.ล.ต. หรือ FCA และมีแพลตฟอร์มที่เสถียรบัญชีทดลองควรให้คุณใช้งานฟีเจอร์เหมือนบัญชีจริงทุกประการ

  2. ตั้งเป้าหมายการเรียนรู้รายสัปดาห์

    กำหนดหัวข้อที่ต้องเรียนรู้ในแต่ละสัปดาห์ เช่น สัปดาห์แรกเรียนรู้การอ่านกราฟ สัปดาห์ที่สองฝึกการวิเคราะห์แนวโน้มการมีเป้าหมายชัดเจนจะทำให้การฝึกฝนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  3. จดบันทึกการเทรดทุกครั้ง

    บันทึกเหตุผลในการเปิด-ปิดออเดอร์ จุดเข้า-ออก และผลลัพธ์การทบทวนบันทึกจะช่วยให้คุณเห็นข้อผิดพลาดและพัฒนาการเทรดได้ดีขึ้น

วิเคราะห์ตลาดด้วยกราฟเทคนิคพื้นฐาน

การวิเคราะห์กราฟเทคนิคเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการเทรด Forex

“คุณอาจรู้สึกว่าการวิเคราะห์กราฟเป็นเรื่องยาก” แต่การเริ่มต้นจากการเรียนรู้เครื่องมือพื้นฐาน 3 อย่างต่อไปนี้จะช่วยให้คุณวิเคราะห์ตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ:

  1. เส้นแนวโน้ม (Trend Line)

    เครื่องมือพื้นฐานที่ช่วยระบุทิศทางของตลาดลากเส้นเชื่อมจุดต่ำสุดหรือสูงสุดของราคาเพื่อดูแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลงการเทรดตามแนวโน้มจะช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไร

  2. แนวรับแนวต้าน (Support and Resistance)

    ระดับราคาที่มักจะเกิดการกลับตัวของทิศทางแนวรับคือระดับที่ราคามักจะสะท้อนขึ้น ส่วนแนวต้านคือระดับที่ราคามักจะสะท้อนลงการรู้จุดเหล่านี้ช่วยในการวางแผนจุดเข้า-ออกได้ดีขึ้น

  3. เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average)

    เส้นที่แสดงค่าเฉลี่ยของราคาในช่วงเวลาที่กำหนดช่วยยืนยันแนวโน้มและจุดกลับตัวของราคานิยมใช้ค่าเฉลี่ย 20, 50, และ 200 วันประกอบการตัดสินใจ

เรียนรู้การบริหารความเสี่ยงและการจัดการเงินทุน

การบริหารความเสี่ยงและการจัดการเงินทุนที่ดีคือหัวใจสำคัญของการเทรด Forex อย่างยั่งยืน

“คุณอาจกังวลเรื่องการขาดทุนจนหมดตัว” แต่การปฏิบัติตามหลักการจัดการความเสี่ยงต่อไปนี้จะช่วยปกป้องเงินทุนของคุณ:

  1. กฎ 1% ในการจัดการความเสี่ยง

    ไม่ควรเสี่ยงเกิน 1% ของเงินทุนต่อการเทรดหนึ่งครั้งเช่น หากมีเงินทุน 100,000 บาท ความเสี่ยงต่อครั้งไม่ควรเกิน 1,000 บาทการใช้กฎนี้จะช่วยให้คุณอยู่รอดในตลาดได้แม้จะขาดทุนติดต่อกันหลายครั้ง

  2. อัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Risk/Reward Ratio)

    ควรตั้งเป้าหมายกำไรให้มากกว่าความเสี่ยงขาดทุนอย่างน้อย 1:2หมายความว่า หากยอมรับความเสี่ยงขาดทุน 1,000 บาท ควรตั้งเป้าหมายกำไรอย่างน้อย 2,000 บาทอัตราส่วนนี้จะช่วยให้คุณทำกำไรได้แม้จะมีอัตราการชนะเพียง 40%

  3. การใช้คำสั่ง Stop Loss ทุกครั้ง

    Stop Loss คือคำสั่งที่จะปิดการเทรดอัตโนมัติเมื่อขาดทุนถึงจุดที่กำหนดช่วยป้องกันการขาดทุนที่มากเกินไปในกรณีที่ราคาวิ่งสวนทางกับที่คาดการณ์ควรตั้ง Stop Loss ทุกครั้งก่อนเปิดการเทรด

  4. การกระจายความเสี่ยง

    ไม่ควรเทรดคู่เงินเดียวกันหรือคู่เงินที่มีความสัมพันธ์กันมากเกินไปในเวลาเดียวกันการเทรดหลายคู่เงินพร้อมกันอาจเพิ่มความเสี่ยงแบบทวีคูณควรจำกัดจำนวนการเทรดที่เปิดพร้อมกันไม่เกิน 2-3 ตำแหน่ง

  5. การรักษาสภาพคล่อง

    ควรรักษาเงินสดในบัญชีอย่างน้อย 50% ไว้สำหรับรองรับการเทรดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตการใช้เงินทุนทั้งหมดในการเทรดอาจทำให้พลาดโอกาสดีๆ หรือไม่มีเงินสำรองเมื่อตลาดผันผวน

  6. การติดตามผลการเทรดอย่างเป็นระบบ

    บันทึกผลการเทรดทุกครั้งลงในสมุดบันทึกการเทรดระบุจำนวนเงินที่ได้กำไรหรือขาดทุน อัตราส่วนการชนะ และความผิดพลาดที่เกิดขึ้นการวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดได้ดีขึ้น

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการบริหารความเสี่ยงคือความมีวินัยไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตลาด คุณต้องยึดมั่นในกฎการบริหารความเสี่ยงที่วางไว้นักเทรดที่ประสบความสำเร็จไม่ได้ทำกำไรได้ทุกครั้ง แต่พวกเขารู้จักจำกัดการขาดทุนและรักษาเงินทุนไว้เพื่อเทรดในวันข้างหน้า

ตามข้อมูลจากสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน นักเทรดที่มีระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดีมีโอกาสอยู่รอดในตลาดในระยะยาวสูงกว่าถึง 5 เท่าเมื่อเทียบกับนักเทรดที่ไม่มีระบบการเรียนรู้และฝึกฝนการบริหารความเสี่ยงตั้งแต่เริ่มต้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

วิธีจัดการเวลาเทรด Forex คู่กับงานประจำ

บทที่ 3
วิธีจัดการเวลาเทรด Forex คู่กับงานประจำ

การเทรด Forex สามารถทำควบคู่ไปกับงานประจำได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากมีการวางแผนและจัดการเวลาอย่างเหมาะสม

ตลาด Forex เปิดทำการ 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการเลือกช่วงเวลาเทรดที่เหมาะสมกับตารางชีวิตของแต่ละคน

ต่อไปนี้เราจะอธิบายวิธีการจัดการเวลาและเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณสามารถเทรด Forex ได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้จะมีข้อจำกัดด้านเวลา

แบ่งเวลาวิเคราะห์ตลาดและวางแผนการเทรด

การวิเคราะห์ตลาดและวางแผนการเทรดล่วงหน้าเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จสำหรับผู้ที่มีงานประจำ

“คุณอาจกังวลว่าไม่มีเวลาเพียงพอในการวิเคราะห์ตลาด” ผู้เขียนขอแนะนำวิธีจัดการเวลาดังนี้:

  1. จัดสรรเวลาวิเคราะห์ตลาดในช่วงเช้าหรือก่อนนอน

    ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาทีในการวิเคราะห์กราฟรายวันและรายสัปดาห์ วางแผนการเทรดล่วงหน้า และตั้งคำสั่งซื้อขายแบบรอราคา

  2. ใช้แอพพลิเคชันมือถือเพื่อติดตามตลาด

    ติดตั้งแอพพลิเคชันของโบรกเกอร์ในมือถือ เพื่อตรวจสอบสถานะการเทรดและข่าวสำคัญในช่วงพักกลางวันหรือระหว่างเดินทาง

  3. ตั้งการแจ้งเตือนราคา

    ใช้ฟังก์ชันแจ้งเตือนเมื่อราคาถึงจุดที่สนใจ ช่วยให้ไม่ต้องจ้องหน้าจอตลอดเวลา

เลือกช่วงเวลาเทรดที่เหมาะสมกับตารางชีวิต

การเลือกช่วงเวลาเทรดที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถจัดการทั้งงานประจำและการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“การเทรดในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เสียสมาธิในการทำงานและนำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาด” ต่อไปนี้คือคำแนะนำในการเลือกช่วงเวลาเทรด:

  1. เทรดในช่วงตลาดเอเชีย (07:00-15:00 น.)

    เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานกะบ่ายหรือกะดึก สามารถวิเคราะห์และเทรดในช่วงเช้าก่อนไปทำงาน

  2. เทรดในช่วงตลาดยุโรป (14:00-22:00 น.)

    เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานกะเช้า สามารถเทรดหลังเลิกงานในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง

  3. เทรดในช่วงตลาดอเมริกา (20:00-05:00 น.)

    เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเทรดในช่วงกลางคืนหรือทำงานที่มีเวลายืดหยุ่น

ใช้คำสั่งซื้อขายอัตโนมัติช่วยจัดการพอร์ต

คำสั่งซื้อขายอัตโนมัติเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้คุณบริหารจัดการการเทรดได้แม้ในช่วงเวลาที่ไม่สามารถจ้องหน้าจอได้

“การตั้งคำสั่งซื้อขายล่วงหน้าช่วยลดความเครียดและความกังวลระหว่างทำงานประจำ” ต่อไปนี้คือคำสั่งที่ควรใช้:

  1. คำสั่ง Stop Loss และ Take Profit

    ตั้งจุดตัดขาดทุนและทำกำไรล่วงหน้าเพื่อจำกัดความเสี่ยงและรักษาผลกำไรโดยอัตโนมัติ

  2. คำสั่ง Pending Order

    วางคำสั่งซื้อขายล่วงหน้าที่ราคาเป้าหมาย ช่วยให้ไม่พลาดโอกาสการเทรดแม้ในเวลาทำงาน

  3. คำสั่ง Trailing Stop

    ปรับจุดตัดขาดทุนตามการเคลื่อนไหวของราคาโดยอัตโนมัติ ช่วยรักษาผลกำไรที่มีอยู่

สรุป: มือใหม่ก็เทรด Forex ได้ ถ้าเริ่มต้นอย่างถูกวิธีและมีแผนที่ชัดเจน

ในครั้งนี้ เราได้พูดถึงผู้ที่สนใจเริ่มต้นเทรด Forex เพื่อสร้างรายได้เสริม โดยกล่าวถึง

  1. ความจริงเกี่ยวกับตลาด Forex และการลงทุนที่ปลอดภัย
  2. 3 ขั้นตอนสำคัญสำหรับการเริ่มต้นเทรด Forex
  3. วิธีจัดการเวลาเทรดให้เข้ากับชีวิตประจำวัน

โดยผู้เขียนได้แบ่งปันประสบการณ์จากการเทรด Forex มากกว่า 10 ปี ทั้งในฐานะผู้เริ่มต้นจนถึงการเป็นเทรดเดอร์อาชีพ

การเทรด Forex อาจดูน่ากลัวสำหรับผู้เริ่มต้น แต่ด้วยการวางแผนที่ดีและเริ่มต้นอย่างรอบคอบ ผู้เริ่มต้นสามารถพัฒนาทักษะและสร้างรายได้เสริมที่มั่นคงได้

สิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นด้วยการศึกษาและฝึกฝนผ่านบัญชีทดลอง เรียนรู้การวิเคราะห์ตลาดและการบริหารความเสี่ยง รวมถึงการจัดการเวลาให้เหมาะสมกับชีวิตประจำวัน

การที่ผู้อ่านกำลังศึกษาข้อมูลก่อนเริ่มต้นเทรดนั้นเป็นก้าวแรกที่ถูกต้องแล้ว แสดงให้เห็นถึงความรอบคอบและความตั้งใจจริง

ผู้เขียนเข้าใจดีว่าการเริ่มต้นอาชีพใหม่อาจทำให้รู้สึกกังวลและไม่มั่นใจ โดยเฉพาะเมื่อต้องจัดการทั้งงานประจำและการเรียนรู้ทักษะใหม่ไปพร้อมกัน

แต่หากเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามแนวทางที่แนะนำในบทความนี้ เชื่อว่าผู้อ่านจะสามารถพัฒนาตนเองจนประสบความสำเร็จในการเทรด Forex ได้อย่างแน่นอน ขอเป็นกำลังใจให้เริ่มต้นก้าวแรกอย่างมั่นใจ!

ถ้าคุณชอบ โปรดแชร์ด้วยนะ!

ความคิดเห็น

コメントする

สารบัญ