สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มสร้างรายได้จากคริปโต
“อยากลงทุนในคริปโตมานานแล้ว แต่กลัวว่าเงินน้อยเกินไป…”
“ได้ยินมาว่าคนลงทุนคริปโตขาดทุนกันเยอะ ถ้าเริ่มต้นตอนนี้จะปลอดภัยไหม…”
อาจมีบางคนที่มีความกังวลเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม จากสถิติพบว่านักลงทุนที่เริ่มต้นด้วยเงินลงทุนต่ำกว่า 50,000 บาท และใช้กลยุทธ์ทยอยลงทุนแบบ DCA มีโอกาสขาดทุนน้อยกว่า เมื่อเทียบกับการลงทุนครั้งเดียวจำนวนมาก นี่คือเหตุผลที่การเริ่มต้นด้วยเงินน้อยอาจเป็นข้อดีที่ช่วยลดความเสี่ยง
เรามาเริ่มต้นเรียนรู้วิธีสร้างรายได้จากคริปโตอย่างมีระบบและปลอดภัยไปด้วยกัน
ในบทความนี้ เราจะอธิบายเกี่ยวกับการสร้างรายได้จากคริปโตสำหรับผู้เริ่มต้น
- ทำความรู้จักกับการลงทุนคริปโตและเหตุผลที่มีคนนิยมลงทุน
- 3 วิธีเริ่มต้นสร้างรายได้แม้มีเงินทุนน้อย
- เคล็ดลับจัดการความเสี่ยงที่ควรรู้ก่อนเริ่มลงทุน
โดยผู้เขียนจะแบ่งปันประสบการณ์กว่า 10 ปีในฐานะเทรดเดอร์อิสระที่ประสบความสำเร็จ
ผู้เขียนเข้าใจดีว่าการเริ่มต้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงอาจสร้างความกังวล แต่หากเรียนรู้และเริ่มต้นอย่างถูกวิธี การลงทุนในคริปโตก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ โปรดใช้บทความนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความมั่นคงทางการเงินของคุณ
ทำความรู้จักกับการลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี
ทำความรู้จักกับการลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี
คริปโตเคอร์เรนซีเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนสูง แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงที่ต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้
การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีแตกต่างจากการลงทุนแบบดั้งเดิมอย่างหุ้นหรือพันธบัตร เพราะเป็นตลาดที่เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง และมีความผันผวนสูง จึงจำเป็นต้องเข้าใจพื้นฐานและความเสี่ยงก่อนเริ่มลงทุน
มาทำความรู้จักกับคริปโตเคอร์เรนซีให้มากขึ้นผ่านสองประเด็นสำคัญต่อไปนี้
ทำไมคริปโตถึงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
คริปโตเคอร์เรนซีได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนและการพัฒนาของเทคโนโลยีบล็อกเชน
“คุณอาจเคยได้ยินว่าบิทคอยน์เคยทำผลตอบแทนได้มากกว่า 1,000% ในบางช่วง”
- การเข้าถึงง่ายและเริ่มต้นได้ด้วยเงินน้อย ไม่จำเป็นต้องมีเงินลงทุนมาก สามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่หลักร้อยบาท
- ตลาดเปิดตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ทำให้สามารถซื้อขายได้ทุกเวลาตามความสะดวก
- มีแพลตฟอร์มซื้อขายที่ใช้งานง่าย รองรับภาษาไทย และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือ
จากข้อมูลของสมาคมฟินเทคประเทศไทย พบว่านักลงทุนรายย่อยในประเทศไทยสนใจลงทุนในคริปโตเพิ่มขึ้นถึง 300% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ความนิยมนี้มาพร้อมกับความเสี่ยง ผู้เขียนขอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน
ความแตกต่างระหว่างคริปโตและการลงทุนแบบดั้งเดิม
การลงทุนในคริปโตมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากการลงทุนในหุ้นหรือพันธบัตรอย่างมีนัยสำคัญ
-
ความผันผวนของราคา
คริปโตมีความผันผวนสูงกว่าสินทรัพย์แบบดั้งเดิมมาก ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้มากกว่า 10% ในวันเดียว ต่างจากหุ้นที่มักผันผวนไม่เกิน 2-3% ต่อวัน
-
เวลาทำการ
ตลาดคริปโตเปิดตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ไม่มีวันหยุด ต่างจากตลาดหุ้นที่เปิดทำการเฉพาะวันทำการ เวลา 10.00-16.30 น.
-
การกำกับดูแล
คริปโตมีการกำกับดูแลที่น้อยกว่า แม้ปัจจุบันจะมีกฎระเบียบมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เข้มงวดเท่าตลาดหุ้นที่มีการกำกับดูแลโดย ก.ล.ต.
-
สภาพคล่อง
คริปโตบางเหรียญอาจมีสภาพคล่องต่ำ ทำให้ซื้อขายยาก ต่างจากหุ้นบลูชิพที่มีสภาพคล่องสูงและซื้อขายง่าย
-
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา
ราคาคริปโตมักได้รับผลกระทบจากข่าวสาร กระแสโซเชียล และความเคลื่อนไหวของนักลงทุนรายใหญ่ ต่างจากหุ้นที่ราคามักขึ้นอยู่กับผลประกอบการและปัจจัยพื้นฐาน
“คุณอาจกังวลว่าความผันผวนสูงจะทำให้ขาดทุน”
ความแตกต่างเหล่านี้ทำให้การลงทุนในคริปโตต้องใช้กลยุทธ์และการบริหารความเสี่ยงที่แตกต่างจากการลงทุนแบบดั้งเดิม
3 วิธีเริ่มต้นสร้างรายได้จากคริปโตสำหรับมือใหม่
3 วิธีเริ่มต้นสร้างรายได้จากคริปโตสำหรับมือใหม่
การสร้างรายได้จากคริปโตไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนมหาศาล แต่ต้องเริ่มต้นอย่างมีความรู้และวินัย
ข้อมูลจากสมาคมฟินเทคประเทศไทยพบว่า นักลงทุนที่เริ่มต้นด้วยเงินลงทุนน้อยและมีการวางแผนที่ดี มีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าผู้ที่เริ่มต้นด้วยเงินจำนวนมากแต่ขาดความรู้
ในส่วนนี้ เราจะแนะนำ 3 วิธีที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น โดยเน้นการลงทุนอย่างมีระบบและการบริหารความเสี่ยง
การลงทุนระยะยาวด้วยวิธี DCA ที่ปลอดภัย
การลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging) หรือการทยอยซื้อสม่ำเสมอ เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นลงทุนในคริปโต
“คุณอาจกังวลว่าจะเริ่มต้นลงทุนอย่างไรดีเมื่อมีเงินทุนจำกัด” การลงทุนแบบ DCA จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ โดยใช้หลักการแบ่งเงินลงทุนเป็นก้อนเล็กๆ และทยอยซื้อสม่ำเสมอทุกเดือน
- เริ่มต้นด้วยเงินที่ยอมรับการขาดทุนได้ เช่น 1,000-5,000 บาทต่อเดือน
- เลือกคริปโตที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง เช่น Bitcoin หรือ Ethereum
- กำหนดวันที่จะซื้อแน่นอนทุกเดือน เช่น ทุกวันที่ 1 หรือวันที่ได้รับเงินเดือน
ข้อมูลจาก CoinGecko แสดงว่า การลงทุนแบบ DCA ใน Bitcoin เดือนละ 1,000 บาทในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 400% แม้จะผ่านช่วงตลาดขาลงมาแล้วก็ตาม
การวิเคราะห์ทางเทคนิคเบื้องต้นสำหรับการเทรด
การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เริ่มต้นสามารถทำกำไรจากความผันผวนของตลาดคริปโตได้
“คุณอาจรู้สึกว่าการวิเคราะห์กราฟดูซับซ้อนและยากเกินไป” แต่การเริ่มต้นจากเครื่องมือพื้นฐาน 3 ตัวนี้จะช่วยให้เข้าใจทิศทางตลาดได้ง่ายขึ้น:
-
เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average)
เป็นเครื่องมือที่ใช้บ่งชี้แนวโน้มของราคา โดยค่าเฉลี่ย 20 วันตัดขึ้นผ่านค่าเฉลี่ย 50 วันมักบ่งชี้จังหวะซื้อที่ดี และในทางกลับกันหากตัดลงมักเป็นสัญญาณขาย
-
ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI)
ช่วยบอกว่าราคาปรับตัวขึ้นหรือลงมากเกินไปหรือไม่ โดย RSI เกิน 70 มักบ่งชี้ว่าราคาขึ้นมามากเกินไป อาจเกิดการพักตัว ส่วน RSI ต่ำกว่า 30 มักบ่งชี้โอกาสในการซื้อ
-
แนวรับแนวต้าน (Support & Resistance)
เป็นระดับราคาที่มักมีแรงซื้อ (แนวรับ) หรือแรงขาย (แนวต้าน) สะสม การซื้อเมื่อราคาทดสอบแนวรับและขายเมื่อราคาใกล้แนวต้านเป็นกลยุทธ์พื้นฐานที่ได้ผลดี
การสร้างรายได้จากโปรแกรมอ้างอิงและ Faucet
นอกจากการลงทุนโดยตรง ยังมีวิธีสร้างรายได้จากคริปโตที่ไม่ต้องใช้เงินทุนหรือใช้น้อยมาก ผ่านโปรแกรมอ้างอิง (Referral) และ Faucet
“คุณอาจกำลังมองหาวิธีเริ่มต้นโดยไม่ต้องลงทุนเงินก้อนใหญ่” ต่อไปนี้คือวิธีที่สามารถเริ่มต้นได้ทันที:
-
โปรแกรมอ้างอิงของแพลตฟอร์มเทรด
แพลตฟอร์มเทรดคริปโตชั้นนำมักมีโปรแกรมอ้างอิงที่ให้ส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมการเทรดจากผู้ที่สมัครผ่านลิงก์ของคุณ บางแพลตฟอร์มให้ส่วนแบ่งสูงถึง 40% ของค่าธรรมเนียม
-
การทำงานในระบบนิเวศคริปโต
เว็บไซต์ข่าวคริปโต เว็บรีวิว หรือชุมชนคริปโตต่างๆ มักเปิดรับนักเขียน แอดมิน หรือผู้ช่วยดูแลชุมชน โดยจ่ายค่าตอบแทนเป็นคริปโต งานเหล่านี้ช่วยให้ได้ทั้งความรู้และรายได้
-
การใช้ Faucet และแพลตฟอร์มรับรางวัล
เว็บไซต์ Faucet แจกคริปโตฟรีเมื่อทำภารกิจง่ายๆ เช่น ดูโฆษณา ตอบคำถาม หรือเล่นเกม แม้จะได้จำนวนน้อย แต่สามารถสะสมเป็นเงินทุนเริ่มต้นได้ และยังช่วยให้เรียนรู้วิธีจัดการคริปโตโดยไม่มีความเสี่ยง
เคล็ดลับจัดการความเสี่ยงในตลาดคริปโต
เคล็ดลับจัดการความเสี่ยงในตลาดคริปโต
การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีมาพร้อมกับโอกาสและความเสี่ยง การเข้าใจและจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสมจึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในระยะยาว
จากสถิติพบว่า นักลงทุนมือใหม่ประสบปัญหาขาดทุนในช่วงปีแรก ส่วนใหญ่เกิดจากการขาดความรู้ในการบริหารความเสี่ยง แต่หากมีการวางแผนที่ดี การลงทุนในคริปโตก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจได้
มาดูวิธีจัดการความเสี่ยงที่สำคัญ 3 ประการที่จะช่วยให้การลงทุนของคุณปลอดภัยมากขึ้น
การกระจายพอร์ตลงทุนอย่างเหมาะสม
การกระจายการลงทุนเป็นหลักการสำคัญในการลดความเสี่ยง ผู้เขียนขอแนะนำวิธีจัดสรรพอร์ตที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนแต่ละระดับ
-
สำหรับผู้เริ่มต้น (เงินลงทุนไม่เกิน 50,000 บาท)
ควรจัดสรร 60-70% ในคริปโตที่มีมูลค่าตลาดสูง เช่น Bitcoin และ Ethereum ที่เหลือกระจายในคริปโตระดับกลางที่มีพื้นฐานดี เน้นการลงทุนแบบ DCA เดือนละ 1,000-2,000 บาท เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา
-
สำหรับผู้มีประสบการณ์ (เงินลงทุน 50,000-500,000 บาท)
แนะนำให้จัดสรร 40-50% ในคริปโตมูลค่าตลาดสูง 30-40% ในคริปโตระดับกลาง และ 10-20% ในโครงการที่มีศักยภาพสูงแต่ความเสี่ยงมากขึ้น ควรติดตามข่าวสารและปรับพอร์ตทุก 3-6 เดือน
-
สำหรับนักลงทุนระยะยาว (เงินลงทุนมากกว่า 500,000 บาท)
ควรกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์หลากหลายประเภท โดยจัดสรรไม่เกิน 30% ของพอร์ตรวมในคริปโต และแบ่งเป็น 50% ในคริปโตมูลค่าตลาดสูง 30% ในคริปโตระดับกลาง และ 20% ในโครงการที่มีศักยภาพ
การกระจายพอร์ตที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดคริปโต แต่ต้องระวังไม่กระจายมากเกินไปจนดูแลไม่ทั่วถึง
การเลือกกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ปลอดภัย
ความปลอดภัยของสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การเลือกกระเป๋าเงินที่เหมาะสมจะช่วยปกป้องสินทรัพย์ของคุณจากการถูกแฮ็กหรือขโมย
- กระเป๋าเงินแบบ Hot Wallet เหมาะสำหรับการทำธุรกรรมประจำวัน ควรเก็บไม่เกิน 20% ของสินทรัพย์ทั้งหมด
- กระเป๋าเงินแบบ Cold Wallet เหมาะสำหรับเก็บสินทรัพย์ระยะยาว ควรเก็บ 80% ของสินทรัพย์ทั้งหมด
- แนะนำให้ใช้กระเป๋าเงินที่มีระบบยืนยันตัวตนหลายชั้น (Multi-factor Authentication)
-
วิธีเลือกกระเป๋าเงินที่น่าเชื่อถือ
ตรวจสอบประวัติและความน่าเชื่อถือของผู้พัฒนา มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน และมีชุมชนผู้ใช้งานจำนวนมาก นอกจากนี้ควรอ่านรีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริง
-
การสำรองและกู้คืนข้อมูล
เก็บรักษา Seed Phrase หรือ Private Key ไว้ในที่ปลอดภัย อย่าถ่ายรูปหรือเก็บในรูปแบบดิจิทัล ควรจดบันทึกลงกระดาษและเก็บไว้หลายที่
การวางแผนภาษีและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การลงทุนในคริปโตมีประเด็นด้านภาษีและกฎหมายที่ต้องพิจารณา การวางแผนที่ดีจะช่วยให้การลงทุนถูกต้องตามกฎหมายและประหยัดภาษี
-
ภาษีจากการซื้อขายคริปโต
กำไรจากการซื้อขายคริปโตถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) ต้องนำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยสามารถเลือกเสียภาษีแบบหัก ณ ที่จ่าย 15% หรือนำไปรวมคำนวณภาษีปลายปี
-
การบันทึกธุรกรรม
ควรเก็บประวัติการซื้อขายทั้งหมด ราคาต้นทุน และกำไรขาดทุน เพื่อใช้ในการคำนวณภาษีและอ้างอิงในอนาคต แนะนำให้ใช้แอพพลิเคชันติดตามพอร์ตที่สามารถส่งออกรายงานได้
-
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ศึกษาและปฏิบัติตามกฎระเบียบของ ก.ล.ต. เกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น การซื้อขายผ่านศูนย์ซื้อขายที่ได้รับอนุญาต และข้อจำกัดในการโอนเงินระหว่างประเทศ
-
การวางแผนภาษีล่วงหน้า
จัดการธุรกรรมให้มีประสิทธิภาพด้านภาษี เช่น ชดเชยกำไรขาดทุนภายในปีภาษีเดียวกัน หรือแบ่งการขายคริปโตออกเป็นหลายครั้งเพื่อกระจายภาระภาษี
-
การขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
หากมีธุรกรรมจำนวนมากหรือซับซ้อน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีที่มีความรู้เกี่ยวกับคริปโต เพื่อให้มั่นใจว่าปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายและเสียภาษีในอัตราที่เหมาะสม
การเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายภาษีอย่างถูกต้องจะช่วยให้การลงทุนในคริปโตของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและมั่นคงในระยะยาว ควรติดตามการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคริปโตมีการปรับปรุงอยู่เสมอ
สรุป: เริ่มต้นสร้างรายได้จากคริปโตได้แม้มีทุนน้อย แต่ต้องรู้จักบริหารความเสี่ยง
ในครั้งนี้ เราได้พูดถึงผู้ที่สนใจสร้างรายได้จากคริปโต โดยกล่าวถึง
- การทำความรู้จักกับการลงทุนคริปโตและโอกาสที่มาพร้อมความเสี่ยง
- 3 วิธีเริ่มต้นสร้างรายได้สำหรับผู้เริ่มต้นที่มีทุนจำกัด
- เคล็ดลับจัดการความเสี่ยงเพื่อความสำเร็จในระยะยาว
โดยผู้เขียนได้แบ่งปันประสบการณ์กว่า 10 ปีในฐานะเทรดเดอร์อิสระที่ประสบความสำเร็จ
การลงทุนในคริปโตไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนมหาศาล แต่สิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นด้วยความรู้ที่ถูกต้องและการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม จากสถิติพบว่านักลงทุนที่เริ่มต้นอย่างมีระบบมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่า
สำหรับผู้ที่สนใจ แนะนำให้เริ่มต้นจากการลงทุนแบบ DCA ด้วยเงินที่ยอมรับการขาดทุนได้ และค่อยๆ เรียนรู้เพิ่มเติมผ่านแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
แม้ว่าตอนนี้คุณอาจรู้สึกว่าการลงทุนในคริปโตเป็นเรื่องยาก แต่ทุกคนล้วนเคยเริ่มต้นจากจุดเดียวกัน
ผู้เขียนเข้าใจดีว่าการตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงอาจสร้างความกังวล โดยเฉพาะเมื่อมีเงินทุนจำกัด
อย่างไรก็ตาม หากเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปและใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม การลงทุนในคริปโตก็สามารถเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวได้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนประสบความสำเร็จค่ะ
ความคิดเห็น