ประกาศ: ขณะนี้ XM กำลังจัดโปรโมชั่นพิเศษอยู่

ควบคุมอารมณ์เทรด ระบบช่วยลดความเสี่ยง

ควบคุมอารมณ์การซื้อขายของคุณ

สำหรับผู้ที่พยายามควบคุมอารมณ์ในการเทรด
“พยายามควบคุมอารมณ์แล้ว แต่ทำไมยังพลาดซ้ำๆ จนขาดทุนบ่อยครั้ง…”
“กลัวว่าถ้าควบคุมอารมณ์ไม่ได้ จะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด…”

จากประสบการณ์เทรด Forex กว่า 10 ปีของผู้เขียน พบว่าความสำเร็จในการลงทุนไม่ได้อยู่ที่กลยุทธ์หรือเครื่องมือ แต่อยู่ที่การจัดการอารมณ์ต่างหาก ข้อมูลจาก Journal of Behavioral Finance ยืนยันว่านักลงทุนที่มีแผนการเทรดเป็นลายลักษณ์อักษรมีโอกาสทำกำไรสูงกว่า เมื่อเทียบกับผู้ที่เทรดด้วยความรู้สึก

การควบคุมอารมณ์ในการเทรดไม่ใช่เรื่องยาก หากมีวิธีการที่ถูกต้องและระบบที่เหมาะสม

ในบทความนี้ เราจะอธิบายเกี่ยวกับการควบคุมอารมณ์ในการเทรด

  1. ผลกระทบของอารมณ์ต่อการตัดสินใจในการเทรด
  2. เทคนิคการควบคุมอารมณ์ที่นักเทรดมืออาชีพใช้
  3. การสร้างระบบเทรดที่ช่วยลดการใช้อารมณ์

โดยผู้เขียนจะแบ่งปันประสบการณ์จริงและเทคนิคที่ได้ผลจากการเทรดมากว่า 10 ปี

ผู้เขียนเข้าใจดีว่าการควบคุมอารมณ์เป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับนักลงทุน แต่หากได้เรียนรู้วิธีการที่ถูกต้อง จะช่วยให้สามารถพัฒนาตนเองเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน โปรดใช้บทความนี้เป็นแนวทางในการพัฒนาทักษะการควบคุมอารมณ์ของคุณ

\แนะนำบัญชีที่ผู้เขียนที่นี่/
เปิดบัญชี XM รับโบนัส ฟรี
สารบัญ

อารมณ์และจิตวิทยาที่ส่งผลต่อการเทรด

บทที่ 1
อารมณ์และจิตวิทยาที่ส่งผลต่อการเทรด

อารมณ์เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการเทรด

การเทรดด้วยอารมณ์มักนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะอารมณ์จะทำให้เราละเลยแผนการเทรดและหลักการที่วางไว้

ในส่วนนี้ เราจะวิเคราะห์ผลกระทบของอารมณ์ต่อการเทรด และวิธีสังเกตสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังเทรดด้วยอารมณ์

ผลกระทบของความกลัวและความโลภต่อการตัดสินใจ

ความกลัวและความโลภเป็นอารมณ์พื้นฐานที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อการตัดสินใจในการเทรด

“คุณเคยรู้สึกกลัวจนไม่กล้าเปิดออเดอร์ทั้งที่เห็นโอกาสชัดเจนไหม” หรือ “เคยโลภจนเพิ่มขนาดการเทรดทั้งที่เกินความเสี่ยงที่ยอมรับได้หรือไม่”

งานวิจัยด้านจิตวิทยาการเทรดพบว่า นักลงทุนสูญเสียเงินกว่า 50% มาจากการตัดสินใจภายใต้อิทธิพลของความกลัวและความโลภ

  1. ผลกระทบของความกลัว: ทำให้ปิดกำไรเร็วเกินไป ไม่กล้าเปิดออเดอร์ หรือตั้ง Stop Loss แคบเกินไปจนโดนตัดทั้งที่วิเคราะห์ถูกทิศทาง
  2. ผลกระทบของความโลภ: ทำให้ถือขาดทุนนานเกินไป เพิ่มขนาดการเทรดมากเกินไป หรือเทรดถี่เกินไปโดยไม่รอจังหวะที่เหมาะสม
  3. ผลกระทบต่อระบบเทรด: ทำให้ละเลยแผนและกฎการเทรดที่วางไว้ นำไปสู่การขาดทุนที่ควบคุมไม่ได้

สัญญาณเตือนว่าคุณกำลังเทรดด้วยอารมณ์

การรู้ทันสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังเทรดด้วยอารมณ์เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการพัฒนาตนเอง

จากการศึกษาพฤติกรรมของเทรดเดอร์มืออาชีพ พบว่ามีสัญญาณเตือนที่ชัดเจน 5 ประการที่บ่งชี้ว่าคุณกำลังเทรดด้วยอารมณ์

  1. การเทรดบ่อยเกินไป

    หากคุณรู้สึกว่าต้องเทรดตลอดเวลาเพื่อไล่ตามการขาดทุน หรือเทรดทุกครั้งที่ราคาขยับ นี่คือสัญญาณว่าคุณกำลังเทรดด้วยอารมณ์ ไม่ใช่ด้วยเหตุผลและแผนที่วางไว้

  2. การเพิ่มขนาดการเทรดเกินกฎที่ตั้งไว้

    เมื่อใดก็ตามที่คุณเริ่มคิดว่า “ครั้งนี้ต้องเอาคืนให้ได้” และเพิ่มขนาดการเทรดมากกว่าที่กำหนดในแผน นั่นคือสัญญาณอันตรายที่บ่งชี้ว่าความโลภกำลังครอบงำการตัดสินใจของคุณ

  3. การไม่ยอมปิดขาดทุน

    หากคุณพบว่าตัวเองกำลังแก้ตัวว่า “เดี๋ยวราคาต้องวิ่งกลับมา” หรือ “ขอรอดูอีกนิด” แทนที่จะทำตามจุดตัดขาดทุนที่วางแผนไว้ แสดงว่าอารมณ์กำลังควบคุมการตัดสินใจของคุณ

  4. ความรู้สึกหงุดหงิดและโกรธ

    เมื่อตลาดไม่เป็นไปตามที่คาด หากคุณรู้สึกโกรธ กดดัน หรือต้องการระบายอารมณ์ใส่จอคอมพิวเตอร์ นี่คือสัญญาณชัดเจนว่าคุณกำลังเทรดด้วยอารมณ์

  5. การติดตามราคาตลอดเวลา

    หากคุณไม่สามารถละสายตาจากกราฟ เช็คราคาทุก 5 นาที หรือรู้สึกกังวลจนนอนไม่หลับเมื่อมีออเดอร์ค้างไว้ แสดงว่าอารมณ์กำลังมีอิทธิพลเหนือการตัดสินใจของคุณ

5 เทคนิคควบคุมอารมณ์ที่นักเทรดมืออาชีพใช้

บทที่ 2
5 เทคนิคควบคุมอารมณ์ที่นักเทรดมืออาชีพใช้

การควบคุมอารมณ์เป็นทักษะสำคัญที่สุดในการเทรด แม้จะมีกลยุทธ์และเครื่องมือวิเคราะห์ที่ดีเพียงใด แต่หากควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาว

จากการศึกษาของสถาบัน Market Psychology Consulting พบว่า นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จให้ความสำคัญกับการจัดการอารมณ์มากกว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิค

ต่อไปนี้คือ 5 เทคนิคที่นักเทรดมืออาชีพใช้ในการควบคุมอารมณ์ระหว่างเทรด ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถพัฒนาตนเองเป็นเทรดเดอร์ที่มีวินัยและประสบความสำเร็จในระยะยาว

การวางแผนเทรดที่ชัดเจนก่อนเข้าตลาด

การเทรดโดยไม่มีแผนที่ชัดเจนเปรียบเสมือนการเดินทางโดยไม่มีแผนที่ เมื่อเผชิญกับความผันผวนของตลาด คุณจะถูกอารมณ์ชักนำให้ตัดสินใจผิดพลาดได้ง่าย

“อาจมีบางครั้งที่คุณรู้สึกว่าการเทรดตามแผนทำให้พลาดโอกาสทำกำไร” แต่การมีแผนที่ชัดเจนจะช่วยป้องกันไม่ให้อารมณ์มาบดบังการตัดสินใจ

แผนการเทรดที่ดีควรประกอบด้วยองค์ประกอบต่อไปนี้:

  1. กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน

    ระบุเป้าหมายกำไรรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือนที่สมเหตุสมผล เป้าหมายที่เป็นไปได้จริงจะช่วยลดความกดดันและความเครียดระหว่างเทรด

  2. ระบุเงื่อนไขการเข้าเทรด

    กำหนดจุดเข้าซื้อขายที่ชัดเจนตามการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือปัจจัยพื้นฐาน อย่าเทรดเมื่อไม่เห็นสัญญาณตามที่กำหนดไว้

  3. จัดสรรเงินทุนอย่างเหมาะสม

    กำหนดวงเงินสูงสุดที่ยอมรับความเสี่ยงได้ต่อการเทรดแต่ละครั้ง แนะนำให้เสี่ยงไม่เกิน 1-2% ของเงินในพอร์ตต่อการเทรดหนึ่งครั้ง

การกำหนดจุดตัดขาดทุนและทำกำไรล่วงหน้า

การกำหนดจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) และจุดทำกำไร (Take Profit) ล่วงหน้าเป็นเครื่องมือสำคัญในการจำกัดความเสียหายและป้องกันความโลภ

“คุณอาจเคยประสบกับการปล่อยให้ขาดทุนบานปลายเพราะหวังว่าราคาจะกลับตัว” การตั้งจุดตัดขาดทุนจะช่วยบังคับให้คุณยอมรับความผิดพลาดและออกจากการเทรดที่ขาดทุน

วิธีการกำหนดจุดตัดขาดทุนและทำกำไรที่มีประสิทธิภาพ:

  1. ใช้อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน

    กำหนดอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนอย่างน้อย 1:2 หมายความว่าต้องมีโอกาสทำกำไรเป็น 2 เท่าของความเสี่ยงขาดทุน

  2. พิจารณาความผันผวนของตลาด

    ตั้งจุดตัดขาดทุนให้ห่างจากราคาตลาดพอสมควรเพื่อรองรับความผันผวนปกติ แต่ไม่ควรห่างเกินไปจนทำให้ขาดทุนมากเกินควร

  3. ปรับใช้ Stop Loss แบบเลื่อนตาม

    เมื่อราคาเคลื่อนไหวในทิศทางที่คาดไว้ ให้เลื่อนจุดตัดขาดทุนตามเพื่อล็อกกำไรบางส่วน

การใช้สมาธิและการพักผ่อนเพื่อลดความเครียด

ความเครียดและความกดดันเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการตัดสินใจที่มีเหตุผล การฝึกสมาธิและการพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้จิตใจสงบและควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น

“บางครั้งคุณอาจรู้สึกว่าต้องจ้องหน้าจอตลอดเวลาเพื่อไม่ให้พลาดโอกาส” แต่การพักสายตาและผ่อนคลายจิตใจเป็นระยะจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น

เทคนิคการจัดการความเครียดที่มีประสิทธิภาพ:

  1. ฝึกหายใจเพื่อสร้างสมาธิ

    ฝึกการหายใจลึกๆ 5-10 นาทีก่อนเริ่มเทรด และทำซ้ำระหว่างวันเมื่อรู้สึกเครียด การหายใจที่ถูกวิธีจะช่วยลดฮอร์โมนความเครียดและเพิ่มออกซิเจนให้สมอง

  2. จัดตารางพักอย่างเป็นระบบ

    กำหนดเวลาพัก 10-15 นาทีทุก 2 ชั่วโมง ใช้เวลาพักเดินออกกำลัง ยืดเส้นยืดสาย หรือทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย

  3. แยกพื้นที่เทรดและพักผ่อน

    จัดพื้นที่เทรดให้เป็นสัดส่วน และมีพื้นที่พักผ่อนแยกต่างหาก เมื่อพัก ให้ออกจากพื้นที่เทรดเพื่อตัดขาดจากความเครียด

การบันทึกและวิเคราะห์ผลการเทรดอย่างมีระบบ

การบันทึกและวิเคราะห์ผลการเทรดช่วยให้เห็นข้อผิดพลาดที่เกิดจากการใช้อารมณ์ และนำไปสู่การพัฒนาที่ดีขึ้น

“คุณอาจรู้สึกเสียเวลากับการบันทึกรายละเอียดทุกการเทรด” แต่บันทึกการเทรดเป็นเครื่องมือสำคัญในการระบุและแก้ไขพฤติกรรมการเทรดที่ใช้อารมณ์

องค์ประกอบสำคัญที่ควรบันทึก:

  1. รายละเอียดการเทรด

    บันทึกวันเวลา คู่สินทรัพย์ ขนาดการเทรด จุดเข้า จุดออก และผลลัพธ์ ข้อมูลนี้จะช่วยวิเคราะห์รูปแบบการตัดสินใจ

  2. สภาวะอารมณ์

    จดบันทึกความรู้สึกก่อน ระหว่าง และหลังการเทรด สังเกตว่าอารมณ์ใดมักนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด

  3. การวิเคราะห์ย้อนหลัง

    ทบทวนบันทึกทุกสัปดาห์เพื่อหาแพทเทิร์นของการใช้อารมณ์ ใช้ข้อมูลนี้ปรับปรุงแผนการเทรดและพัฒนาการควบคุมอารมณ์

การสร้างวินัยในการทำตามแผนอย่างเคร่งครัด

วินัยในการเทรดเป็นเกราะป้องกันอารมณ์ที่ดีที่สุด การยึดมั่นในแผนการเทรดจะช่วยลดการตัดสินใจที่ขึ้นอยู่กับความรู้สึกชั่วขณะ

“บางครั้งคุณอาจรู้สึกอยากฝ่าฝืนแผนเพื่อชดเชยการขาดทุน” แต่การรักษาวินัยในการเทรดคือกุญแจสู่ความสำเร็จในระยะยาว

วิธีสร้างและรักษาวินัยในการเทรด:

  1. สร้างรูทีนประจำวัน

    กำหนดเวลาเริ่มและจบการเทรดที่แน่นอน มีขั้นตอนเตรียมความพร้อมก่อนเทรด เช่น ทบทวนแผน วิเคราะห์ตลาด และตั้งเป้าหมายรายวัน

  2. ใช้ระบบ Checklist

    สร้างรายการตรวจสอบสำหรับทุกขั้นตอนการเทรด เช่น การวิเคราะห์ก่อนเทรด การตั้งจุดตัดขาดทุน และการบันทึกผล ทำตามรายการอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้พลาดขั้นตอนสำคัญ

  3. กำหนดกฎเหล็ก

    ตั้งกฎที่ห้ามทำโดยเด็ดขาด เช่น ห้ามเพิ่มขนาดการเทรดเพื่อไล่ขาดทุน ห้ามเทรดนอกแผน หรือห้ามเทรดเกินวงเงินที่กำหนด เขียนกฎไว้ใกล้ตัวเพื่อเตือนใจตลอดเวลา

  4. สร้างระบบให้รางวัล

    ให้รางวัลตัวเองเมื่อทำตามแผนได้ครบถ้วน แม้ผลลัพธ์จะขาดทุน และงดรางวัลเมื่อฝ่าฝืนแผน แม้จะได้กำไร วิธีนี้จะช่วยสร้างนิสัยการเทรดที่มีวินัย

  5. ทบทวนและปรับปรุงแผน

    ประเมินประสิทธิภาพของแผนการเทรดทุกเดือน หากพบจุดอ่อนหรือปัญหาในการปฏิบัติ ให้ปรับปรุงแผนให้เหมาะสมยิ่งขึ้น แต่เมื่อปรับแผนแล้วต้องยึดมั่นปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ระบบเทรดที่ช่วยลดการใช้อารมณ์

บทที่ 3
ระบบเทรดที่ช่วยลดการใช้อารมณ์

การสร้างระบบเทรดที่มีประสิทธิภาพเป็นกุญแจสำคัญในการลดการใช้อารมณ์ระหว่างการเทรด

ระบบเทรดที่ดีจะช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปตามแผนและกฎที่วางไว้ ไม่หวั่นไหวไปกับความผันผวนของตลาดหรือข่าวลือต่าง ๆ

ในส่วนนี้ เราจะอธิบายวิธีการสร้างระบบเทรดที่ช่วยลดการใช้อารมณ์ และเครื่องมือจัดการความเสี่ยงที่จะช่วยให้คุณเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การสร้างกฎการเทรดที่เป็นระบบอัตโนมัติ

การสร้างกฎการเทรดที่ชัดเจนและเป็นระบบอัตโนมัติจะช่วยลดการใช้อารมณ์ในการตัดสินใจได้อย่างมาก

“คุณอาจเคยรู้สึกลังเลหรือกดดันเมื่อต้องตัดสินใจเข้าหรือออกจากการเทรด” สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการไม่มีกฎและแผนที่ชัดเจนนั่นเอง

การสร้างระบบเทรดอัตโนมัติควรประกอบด้วยองค์ประกอบต่อไปนี้:

  1. กำหนดเงื่อนไขการเข้าเทรดที่ชัดเจน

    ระบุสัญญาณทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานที่ต้องครบถ้วนก่อนเข้าเทรด เช่น การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ย การทะลุแนวรับแนวต้าน หรือการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ การมีเงื่อนไขที่ชัดเจนจะช่วยลดการตัดสินใจด้วยความรู้สึก

  2. กำหนดจุดตัดขาดทุนและทำกำไรล่วงหน้า

    วางจุด Stop Loss และ Take Profit ก่อนเข้าเทรดทุกครั้ง โดยคำนวณจากระดับแนวรับแนวต้านและอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน อย่าปรับเปลี่ยนจุดเหล่านี้ตามอารมณ์หลังจากเข้าเทรดแล้ว

  3. กำหนดขนาดการเทรดตามระบบ Position Sizing

    ใช้สูตรคำนวณขนาดการเทรดที่เหมาะสมกับเงินทุนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เช่น ไม่เสี่ยงเกิน 1-2% ของพอร์ตต่อการเทรดหนึ่งครั้ง การมีระบบ Position Sizing ที่ชัดเจนจะช่วยป้องกันการเทรดด้วยขนาดที่ใหญ่เกินไปเมื่อเกิดความโลภ

  4. สร้างแผนรองรับสถานการณ์ต่าง ๆ

    เตรียมแผนรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ตลาดผันผวนรุนแรง การประกาศข่าวสำคัญ หรือปัญหาทางเทคนิคต่าง ๆ การมีแผนที่ชัดเจนจะช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผลแม้ในภาวะกดดัน

เครื่องมือจัดการความเสี่ยงที่ช่วยควบคุมอารมณ์

การใช้เครื่องมือจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณควบคุมอารมณ์และรักษาวินัยในการเทรดได้ดีขึ้น

“คุณอาจเคยรู้สึกกังวลและเครียดเมื่อพอร์ตขาดทุนหนัก” เครื่องมือจัดการความเสี่ยงจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการขาดทุนที่รุนแรงจนส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ

เครื่องมือจัดการความเสี่ยงที่ควรใช้มีดังนี้:

  1. Stop Loss อัตโนมัติ

    ตั้งคำสั่ง Stop Loss อัตโนมัติทุกครั้งที่เข้าเทรด นี่คือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยจำกัดการขาดทุนและป้องกันไม่ให้อารมณ์เข้ามามีส่วนในการตัดสินใจเมื่อราคาเคลื่อนที่ตรงข้ามกับที่คาดการณ์

  2. การกระจายความเสี่ยง

    แบ่งเงินลงทุนไปในหลายสินทรัพย์หรือกลยุทธ์ การกระจายความเสี่ยงจะช่วยลดผลกระทบทางอารมณ์เมื่อมีการขาดทุนในบางสถานะ เพราะยังมีสถานะอื่นที่อาจทำกำไรชดเชยได้

  3. ระบบการจัดการเงินทุน

    กำหนดวงเงินขาดทุนสูงสุดต่อวัน ต่อสัปดาห์ และต่อเดือน เมื่อขาดทุนถึงระดับที่กำหนด ให้หยุดเทรดทันทีเพื่อป้องกันการตัดสินใจผิดพลาดจากอารมณ์ที่ไม่ดี

  4. เครื่องมือวิเคราะห์พอร์ตโฟลิโอ

    ใช้โปรแกรมวิเคราะห์พอร์ตเพื่อติดตามผลการเทรดและความเสี่ยงโดยรวม การมองเห็นภาพรวมของพอร์ตจะช่วยให้ตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูล ไม่ใช่อารมณ์

สรุป: การควบคุมอารมณ์คือกุญแจสู่ความสำเร็จในการเทรด

ในครั้งนี้ เราได้พูดถึงผู้ที่ต้องการควบคุมอารมณ์ในการเทรดให้ดีขึ้น โดยกล่าวถึง

  1. ผลกระทบของอารมณ์ต่อการตัดสินใจในการเทรด
  2. เทคนิคการควบคุมอารมณ์ที่นักเทรดมืออาชีพใช้
  3. การสร้างระบบเทรดที่ช่วยลดการใช้อารมณ์

โดยผู้เขียนได้แบ่งปันประสบการณ์จากการเทรด Forex กว่า 10 ปี และวิธีการจัดการอารมณ์ที่ได้ผลจริง

การควบคุมอารมณ์เป็นทักษะที่สำคัญที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ จากข้อมูลของ Market Psychology Consulting พบว่า นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จให้ความสำคัญกับการจัดการอารมณ์มากกว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิค

การเริ่มต้นพัฒนาทักษะการควบคุมอารมณ์ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เริ่มจากการวางแผนเทรดที่ชัดเจน กำหนดจุดตัดขาดทุนและทำกำไรล่วงหน้า และสร้างระบบเทรดที่ช่วยลดการใช้อารมณ์

ที่ผ่านมา ผู้ที่พยายามเทรดโดยใช้อารมณ์มักประสบปัญหาขาดทุนและเครียด แต่เมื่อได้นำเทคนิคการควบคุมอารมณ์เหล่านี้ไปใช้ พบว่าสามารถเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผู้เขียนเข้าใจดีว่าการควบคุมอารมณ์ระหว่างเทรดเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดผันผวนรุนแรง แต่หากมีระบบและเครื่องมือที่เหมาะสม การควบคุมอารมณ์จะเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยาก

ขอเชิญชวนให้นำเทคนิคและระบบที่แนะนำในบทความนี้ไปปรับใช้ เชื่อว่าจะช่วยให้สามารถพัฒนาตนเองเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จในระยะยาวได้อย่างแน่นอน ผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้ก้าวผ่านความท้าทายนี้ไปด้วยกัน

ถ้าคุณชอบ โปรดแชร์ด้วยนะ!

ความคิดเห็น

コメントする

สารบัญ